โครเอเชีย เป็นประเทศอิสระ ที่แยกตัวออกมาจากยูโกสลาเวียในปี ค.ศ.1991 และได้พัฒนาประเทศอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทำให้ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เดินทางไปชมความสวยงาม ที่ว่ากันว่า เที่ยวครั้งเดียวครบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น อาหารการกินแบบพื้นเมือง วัฒนธรรมประเพณีแบบท้องถิ่น ธรรมชาติอันสวยงาม ภูเขาหินที่เป็นเหมือนฉากหลังของประเทศ ท้องทะเลสีน้ำเงินคราม และสถาปัตยกรรมโบราณที่มีคุณค่า อายุนับพันปี ที่ได้หล่อหลอมรับวัฒนธรรมในสมัยกรีกและโรมันโบราณ จนทำให้โครเอเชีย ได้รับสมญานามว่า “ไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติก”

คลิก>>>โหลดโปรแกรม…

 เดินทาง 23-30 พ.ค. 62

รายละเอียดการเดินทาง

วันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ค. 62  (1)

สนามบินสุวรรณภูมิ

20.00 น.            พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ T สายการบินเตอร์กิส แอร์ไลน์ พบเจ้าหน้าที่ “บีคอนบอย ทราเวล” คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกและทำการเช็คอินแก่ท่าน

23.00 น.            ออกเดินทางสู่กรุงอิสตัลบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบินที่ TK 69 (ใช้เวลาบิน ประมาณ 10.20 ช.ม.)

วันศุกร์ที่  24 พ.ค. 62  (2)

ซาเกรบ – ซาเกรบซิตี้ทัวร์ – โอพาเทีย

05.20น.             เดินทางถึง กรุงอิสตัลบูล ประเทศตุรกี (แวะเปลี่ยนเครื่อง)

07.05 น.            ออกเดินทางสู่ ซาเกรบ โดยเที่ยวบินที่ TK 1053 (ใช้เวลาบิน ประมาณ 2.15 ช.ม.)

08.20 น.            เดินทางถึง สนามบิน PLESO INTERNATIONAL AIRPORT ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางสู่ซาเกรบ เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย เมืองสำคัญที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี

จากนั้นนำท่านเยี่ยมชมเขตเมืองตอนบนและตอนล่าง ที่เชื่อมกันด้วยรถราง FUNICULAR ที่มีความยาวสั้นที่สุดในยุโรป ผ่านชม โบสถ์เซนต์มาร์ก ที่ตั้งอยู่ในเขตที่ทำการรัฐบาล โดยโบสถ์แห่งนี้มีหลังคาที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร / จากนั้นนำท่านชมตลาดกลางเมือง (Dolac Market) ตลาดกลางแจ้งที่เก่าแก่ มีสีสันสดใส ขายไม้ดอกไม้ประดับและผลไม้ราคาถูก / นำท่านเข้าชม มหาวิหาร เซนต์ สตีเฟ่น โบสถ์คาทอลิกประจำเมืองซาเกรบ เชิญอิสระตามอัธยาศัยกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกในย่านการค้า

เที่ยง                 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน

บ่าย                  จากนั้นนำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่สุสานมิโรกอยจ์ (Mirogoj Cemetery) อีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญที่อยู่ทางเหนือของกรุงซาเกรบ ในความเป็นจริงการเยี่ยมชมสุสานในยุโรปเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ แต่สำหรับชาวไทยยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก มิโรกอยจ์เป็นสุสานที่ฝังศพของผู้ที่จากไปทุกนิกายทุกศาสนา ไม่ว่าจะเป็นชาวคริสต์คาทอลิก , ออโธดอกซ์ , โปแตสแทนต์ รวมถึงชาวมุสลิมและชาวยิวด้วย นำท่านแสดงความเคารพหลุมฝังศพอีกหนึ่งบุคคลสำคัญของประเทศโครเอเชีย ดร.ฟรานโย ทุสมาน (Dr.Franjo Tudjman) อดีตประธานาธิบดีคนแรกของประเทศโครเอเชีย หลังจากประเทศโครเอเชียประกาศอิสรภาพแยกตัวออกจากประเทศยูโกสลาเวียในอดีต

จากนั้นเมื่อได้เวลาอันสมควรนำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่ โอพาเทีย (Opatija) ระยะทาง 175 กิโลเมตร เมืองที่มีสมญานามว่า “ไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติค” ชื่อเดิมของเมืองนี้ คือ ABBAZIA แต่ด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ประกอบกับอยู่ริมทะเลอาเดรียติค ที่มีวิลล่าหรูหราสไตล์ออสเตรีย จึงทำให้โอพาเทีย เป็นเมืองท่องเที่ยวและพักผ่อนที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโครเอเชีย

นำท่านชมตัวเมือง แวะถ่ายรูปกับรูปปั้น นางแห่งนกนางนวล (MAIDEN WITH THE SEAGULL) ซึ่งเป็นรูปปั้นที่แกะโดย ZVONKO CAR เป็นรูปสตรีงดงามที่มีนกนางนวลเกาะอยู่ที่มือ ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งเมือง มีเวลาอิสระตามอัธยาศัยให้ท่านได้เดินชมเมืองโอพาเทีย

ค่ำ                    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง / นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันเสาร์ที่ 25 พ.ค. 62 (3)

โอพาเทีย  –  พูล่า อารีน่า แอมฟิเธียเตอร์โรมัน – โรวินจน์  โบสถ์ยูเฟเมีย

เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่ พูล่า (Pula) โดยใช้เส้นทางลัดเลาะตามแนวหน้าผา ผ่านชมท้องทะเลสีครามสวยงามที่สุด โดยตรงข้ามจะมีเกาะใหญ่ 2 เกาะคือ เกาะ KRK และ เกาะ CRES / เดินทางถึง พูล่า หรือ โพล่า ในภาษาอิตาเลี่ยน เมืองพูล่าเป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่มีความโดดเด่นในฐานะศูนย์กลางของคาบสมุทรอิตาเลียน เมืองพูล่าเคยเป็นเมืองเป็นศูนย์กลางของแหลมอิสเตรีย และเคยเป็นดินแดนของประเทศอิตาลี ทำให้มีผู้คนใช้ภาษาอิตาเลี่ยน กันอย่างแพร่หลาย แม้กระทั่งตามป้ายจราจร

นำท่านเข้าชมสิ่งก่อสร้างในสมัยโรมันที่ยิ่งใหญ่ ที่ยังคงเหลือเป็นอนุสรณ์และสำคัญที่สุดคือ สนามอารีน่า (ARENA) หรือ AMPHITHEATER ที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับโคลอสเซียม ที่กรุงโรม นับเป็นอารีน่าที่ใหญ่เป็นอันดับหก ที่สร้างขึ้นในยุคโรมันเรืองอำนาจ จึงถูกสร้างขึ้นตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมโรมันอย่างเดียวกับโคลอสเซียมของกรุงโรม สามารถจุผู้คนได้ถึง 22,000 คนโดยผ่านทางเข้าออก 20 ช่องทาง อารีน่าที่เห็นในปัจจุบันได้รับการอนุรักษ์ให้คงสภาพตามช่วงศตวรรษที่ 15 ที่มีการนำหินไปสร้างปราสาทและเมือง ในปัจจุบันมักใช้เป็นสถานที่จัดงานโอเปร่า และดนตรีอื่นๆ รวมทั้งเป็นสถานที่จัดงานภาพยนตร์ประจำปีอีกด้วย

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ โรวินจ์ (Rovinj) (ระยะทาง 40 กิโลเมตร) เมืองสวยชายทะเลที่ตั้งอยู่บนแหลมอีสเตรีย ด้วยความที่ดินแดนแห่งนี้ถูกปกครองโดยเวเนเชี่ยน และอยู่ภายใต้การปกครองของอิตาลีมาก่อนทำให้สถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมของเมืองนี้นั้นมีความคล้ายคลึงกับอิตาลีเป็นอย่างมาก ชมอาคาร บ้านเรือนและตรอกซอกซอยขนาดเล็ก ที่พื้นปูด้วยหินก้อนเล็ก เมืองที่เต็มไปด้วยร้านกาแฟ และร้านอาหารต่างๆ มากมาย

เที่ยง                 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

บ่าย                   นำท่านเดินชมเมือง โรวินจ์ ที่สวยงาม เดินชม โบสถ์ St. Euphemia ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา โบสถ์สไตล์บาร็อคที่มียอดโบสถ์สูงถึง 61 เมตร และถือได้ว่าเป็นยอดโบสถ์ที่สูงที่สุดของแคว้น นำท่านชมเขตเมืองเก่า (Old Town) ที่เต็มไปด้วยความงดงามของตึกรามบ้านช่องที่เรียงเป็นแนวยาวในตรอกเล็กๆ ริมชายฝั่งทะเลอาเดรียติก ซึ่งบริเวณเมืองเก่าแห่งนี้มีลักษณะเป็นเกาะแยกตัวออกมาจาก แผ่นดินใหญ่ แต่ได้มีการถมทะเลเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่เพื่อความสะดวกในการเดินทาง อิสระเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัยจนได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองโอพาเทีย

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำภัตตาคารท้องถิ่น / นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันอาทิตย์ที่ 26 พ.ค. 62 (4)

โอพาเทีย – อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ (Unesco) – ซาดาร์

เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่ อุทยานแห่งชาติ พลิตวิเซ่ / นำท่านทางเข้าสู่ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ ที่ตั้งอยู่ใจกลางของ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO เมื่อปี 1979 อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 29,482 เฮคเตอร์ พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยน้ำมีทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้า รวมกันถึง 16 ทะเลสาบ เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินสะพานไม้ลัดเลาะระหว่างทะเลสาบและเนินเขา

เที่ยง                 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองบ่าย                  นำท่านเพลิดเพลินเดินชมความงามของทะเลสาบและน้ำตกที่ไหลรวยรินลงสู่ทะเลสาบทั่วทุกหนทุกแห่งชมฝูงปลาแหวกว่ายในทะเลสาบใสราวกระจกสะท้อนสีครามของท้องฟ้า แวดล้อมด้วย หุบเขา ต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น (การเดินเที่ยวใน อุทยานขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้นๆ)…

นำท่าน ล่องเรือข้ามทะเลสาบ KOZJAK ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานและเป็นทะเลสาบที่เชื่อมระหว่างอุทยานตอนบนและอุทยานตอนล่าง สวยงามดังที่คนกล่าวว่าพลิทวิเซ่เปรียบเช่นดังอุทยานแห่งสวรรค์ / จากนั้นเมื่อได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่เมืองซาดาร์ในภูมิภาค “ดามาเชีย” เป็นภูมิภาคทางตอนใต้ของประเทศโครเอเชีย ซึ่งสุนัขพันธุ์ “ดามาเชี่ยน” ก็มีต้นกำเนิดมาจากดินแดนแห่งนี้

ค่ำ                     นำท่านเข้าสู่ที่พัก / รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พักเมืองซาดาร์

วันจันทร์ที่ 27 พ.ค. 62  (5)

ซาดาร์  – ชิบินิค  –  โทรเกียร์   –  สปลิท

เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเยี่ยมชมเมืองเก่าซาดาร์ เมืองหลวงเก่าของภูมิภาคดามาเชียที่มีอายุกว่า 3,000 ปีมาแล้ว และในอดีตเป็นเมืองท่าการค้าการขายที่สำคัญอย่างยิ่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไม่แพ้เมืองเวนิซของอิตาลี นำท่านชมโบสถ์เซนท์โดแนทที่ก่อสร้างด้วยศิลปะแบบไบแซนไทน์ , โรมันฟอรั่มและ ซีออแกนซ์ ซึ่งในปัจจุบันเป็นสถานที่นัดพบของหนุ่มสาวชาวซาดาร์สามารถฟังเสียงของออแกนทะเลตัวนี้โดยใช้แรงลมจากทะเลเป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดเป็นเสียงดั่งออแกนซ์ สร้างสรรค์ผลงานสุดน่าทึ่งชิ้นนี้โดยศิลปินท้องถิ่นชื่อดัง “นิโคลา เบสิค”

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองชิบินิค เมืองเก่าริมฝั่งทะเลอาเดรียติค ที่มีหลังคาอาคารบ้านเรือนทำด้วยกระเบื้องสีแสด สไตล์เรอเนสซองส์ ที่ได้รับอิทธิพลจากทางอิตาลี ชมสภาว่าการเมืองเก่า THE OLD LOGGIA ที่สร้างขึ้นราว ค.ศ. 15 / นำท่านชม มหาวิหารเซนต์เจมส์ หรือ เซนต์จาคอบ ที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมอิตาเลี่ยน – ดัลเมเชี่ยนได้อย่างลงตัว งดงามด้วยยอดโดมและหลังคา       ที่ประดับด้วยแผ่นหิน จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้

เที่ยง                 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

บ่าย                  นำท่านเดินทางสู่ โทรเกียร์ (Trogir) ระหว่างทางผ่านชมเมืองที่มีสภาพเป็นเกาะอยู่โดดเดี่ยวสวยงามมีชื่อเสียงของโครเอเชีย คือ เมืองพรีโมสเตน ซึ่งเป็นเมืองเล็กที่สวยงามและเป็นเกาะเล็กๆ ในสมัยก่อนมีคนยกย่อง     ให้ชาวเมืองนี้เป็นชาวเมืองที่มีความอดทนมาก ต่อการใช้ชีวิตเนื่องจากภูมิประเทศเป็นภูเขาหินแต่ยังอุตสาหะปลูกพืชและทำการเกษตรกรรม ให้ท่านได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับเมืองที่สวยงามนี้  เมื่อถึง เมืองโทรเกียร์ นำท่านเดินชมภายในเขตเมืองเก่าโทรเกียร์ที่มีสถาปัตยกรรมในสไตล์ กรีก – โรมันโบราณ อาทิเช่น ประตูเมือง ที่ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อศตวรรษที่ 16 หอนาฬิกาที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 14 ผ่านชมมหาวิหารเซ็นต์ลอร์เลนซ์ ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาก่อสร้างนับสิบปี ที่มีความงดงามด้วยกรอบและบานประตูหินแกะสลัก ที่มีรูปปั้นสิงโต อดัม & อีฟและรูปสลักนักบุญองค์สำคัญ มีเวลาให้ท่านเดินเล่นในเมืองเก่า… ซื้อของฝากของที่ระลึกท้องถิ่นตามอัธยาศัย  จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองสปลิท เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศโครเอเชีย เป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวโดยเรือโดยสารและการท่องเที่ยวทางทะเลของประเทศโครเอเชีย

ค่ำ                    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน / นำท่านเข้าสู่ที่พักระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันอังคารที่ 28 พ.ค. 62  (6)

สปลิท  –  นีอุม (ประเทศบอสเนีย)  –  มาลี สตอน  –  ดูบรอฟนิค

เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

เยี่ยมชมเมือสปลิทนำท่านเข้าชม “พระราชวังดิโอคลีเชี่ยน” ที่สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเชี่ยนแห่งอาณาจักรโรมัน ที่ต้องการสร้างพระราชวังสำหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 10 ปี UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ชมห้องโถงกลางซึ่งมีทางเดินที่เชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ ชมลานกว้างซึ่งล้อมไว้ด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้าน และเชื่อมต่อด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรสวยงาม อิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

กลางวัน             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย                   นำท่านเดินทางสู่ เมืองมาลี สตอน (MALI STON) แต่ก่อนถึงเมืองมาลีสตอน จะผ่านการข้ามพรมแดนเข้าเขตประเทศบอสเนียฯ มีระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร เมืองในบริเวณนี้มีชื่อว่า “นีอุม” แวะซื้อของฝากจากประเทศบอสเนียและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางต่อเยี่ยมชมฟาร์มเลี้ยงหอยเพลิดเพลินกับการล่องเรือส่วนตัวชมขั้นตอนต่างๆ ของการเลี้ยงหอยแล้วให้ท่านได้ชิมหอยนางรมสดๆ,หอยแมลงภู่ จากทะเลอเดรียติค พร้อมด้วยเครื่องเคียง ไวน์สด และ

วอดก้าท้องถิ่น

นำท่านเดินทางสู่เมือง ดูบรอฟนิค (Dubrovnik) ไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติก เมืองทางตอนใต้ของสาธารณรัฐโครเอเชีย เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโครเอเชีย และเป็นเมืองที่สวยงามติดอันดับต้นๆของโลก ซึ่งในอดีตเมื่อปี 1991 เมืองดูบรอฟนิค ได้เป็นเป้าหมายถูกโจมตีจากกองทหารยูโกสลาฟ บ้านเรือนกว่าครึ่ง อนุสาวรีย์ต่างๆ เสียหาย และทรุดโทรม และหลังจากนั้นในปี 1995 ได้มีการได้มีการลงนามในสนธิสัญญา ERDUT สงบศึก และเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ UNESCO และสหภาพยุโรป ได้ร่วมกันบูรณะ ซ่อมแซม เมืองส่วนที่เสียหายขึ้นใหม่ในระยะเวลาอันสั้น ปัจจุบันเมืองดูบรอฟนิค ก็กลับมาสวยงามอีกครั้ง และมีการส่งเสริมให้เป็นมรดกโลกอีกเมืองหนึ่ง  ชมทัศนียภาพของเมืองซึ่งตัวเมืองเก่าอยู่ในกำแพงโบราณตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเลอเดรียติค ตัวเมืองจะเป็นป้อมปราการโบราณที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง

ค่ำ                    รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก / นำท่านเข้าสู่ที่พักระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

วันพุธที่ 29 พ.ค. 62  (7)

ดูบรอฟนิค – กระเช้าไฟฟ้ายอดเขา SRD  –  สนามบินดูบรอฟนิค

เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

ช่วงเช้ามีเวลาช่วงสั้น ๆ ให้ท่านได้อิสระพักผ่อนที่โรงแรมตามอัธยาศัย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่สถานีเคเบิลคาร์เพื่อขึ้น กระเช้าไฟฟ้า ที่ความสูง 400 เมตร เพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมืองหลังคาสีแสดส้มและความงดงามทะเลอาเดรียติกจากจุดสูงสุดของยอดเขา SRD ของเมืองดูบรอฟนิค ยามสีน้ำเงินของทะเลอาเดรียติกตัดกับสีส้มแสดของกระเบื้องหลังคาเมืองเก่า สวยงามเกินจินตนาการมากว่าคำบรรยายใด ๆ

กลางวัน            รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย                  นำท่านเที่ยวชมเมืองดูบรอฟนิค ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่สวยงามติดอันดับต้นๆของโลก ซึ่งในอดีตเมื่อปี 1991 เมืองดูบรอฟนิค ได้เป็นเป้าหมายถูกโจมตีจากกองทหารยูโกสลาฟ บ้านเรือนกว่าครึ่ง อนุสาวรีย์ต่างๆ เสียหาย และทรุดโทรม โดยมีการบูรณะเมืองส่วนที่เสียหายขึ้นใหม่ในระยะเวลาอันสั้น ปัจจุบันเมืองดูบรอฟนิค ก็กลับมาสวยงามอีกครั้ง ชมทัศนียภาพของเมืองซึ่งดูบรอฟนิคมีที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทะเลอาเดรียติค ตัวเมืองจะเป็นป้อมปราการโบราณที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ชมแนวกำแพงป้อมปราการที่มีขนาดกว้างขวางใหญ่โต ที่ท่านสามารถขึ้นไปชมความงดงามของตัวเมืองได้อย่างดี จากนั้นให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกบริเวณจัตุรัสกลางเมืองซึ่งเป็นสถานที่นัดพบและประกอบกิจกรรมของชาวเมืองในอดีต รวมถึงสถานที่ลงโทษผู้กระทำผิดด้วย อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกกับ เสาหินอัศวิน, หอนาฬิกา ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนสายหลัก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1444 หน้าปัดทำด้วยเหล็ก มีความพิเศษตรงลูกกลมๆ ใต้หน้าปัดซึ่งแทนพระจันทร์บอกข้างขึ้นข้างแรมในสมัยก่อน และรูปปั้นของ นักบุญ St.Blaise ซึ่งมีโบสถ์ประจำเมืองสไตล์โรมาเนสก์แห่งแรกของเมืองเป็นฉากหลังที่สวยงาม

จากนั้นเดินทางสู่คอนซูมซุปเปอร์มาร์เก็ต (Konzum) อิสระซื้อของฝากผลิตภัณฑ์ของประเทศโครเอเชียในซุปเปอร์มาเก็ตตามอัธยาศัย ก่อนเดินทางไปสนามบิน แวะทานอาหารเย็น ณ เมืองชาฟตัทที่อยู่ไม่ไกลจากสนามบินดูบรอฟนิค

17:30 น.            รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

                        จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินดูบรอฟนิค (หากมีการทำการคืนภาษีกรุณาแจ้งหัวหน้าทัวร์ให้ทราบ)

21.20 น. ออกเดินทางสู่ อิสตัลบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบินที่ TK1440 (ใช้เวลาบินประมาณ 1.45 ชั่วโมง)

วันพฤหสบดีที่ 30 พ.ค. 62 (8)

สนามบินสุวรรณภูมิ

00.05 น.            เดินทางถึง อิสตัลบูล ประเทศตุรกี แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

01.25 น.            ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ TK 68 (ใช้เวลาบิน ประมาณ 9.35 ชั่วโมง)

15.00 น.            เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม…

อัตราค่าบริการ

โครเอเชีย สเปเชียล 8 วัน 5 คืน (TK)

23 – 30 พฤษภาคม 2562

รายละเอียด ราคา / ท่าน
ผู้ใหญ่ พักห้องคู่ 2 ท่าน (Twin-Double Room) 89,900.- บาท
ผู้ใหญ่ กรณีพักท่านที่ 3 (Tripple Room) 89,900.- บาท
ผู้ใหญ่ กรณีพักเดี่ยว (Single Room) ชำระเพิ่ม 15,900.- บาท

***กรุณาอ่านรายละเอียดการจองทัวร์*** 

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าบัตรโดยสารเครื่องบินชั้นประหยัด ( Economy Class) เดินทางเป็นหมู่คณะไปและกลับพร้อมคณะ (กรณีเดินทางไม่พร้อมคณะ กรุณาต่อติดต่อกับบริษัททัวร์ เงื่อนไขตั๋วเป็นไปตามสายการบินกำหนด)
  • ค่าภาษีสนามบินตามรายการบัตรโดยสารเครื่องบิน
  • รถโค้ชปรับอากาศ นำเที่ยวตลอดเส้นทางตามรายการที่ระบุ
  • ค่าโรงแรมที่พักมาตรฐานตามรายการที่ระบุหรือเทียบเท่า
  • ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ (อาหารพื้นเมือง อาหารจีน อาหารไทย ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง)
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ที่ระบุตามรายการ
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าของสถานทูต (หากท่านมีวีซ่าแล้ว คืนค่าวีซ่า 2,500.- บาท/ท่าน – กรณีวีซ่าไม่ผ่านแล้วดำเนินการยื่นใหม่ท่านต้องชำระค่าธรรมเนียมด้วยตัวเอง)
  • ค่าทิปพนักงานขับรถในยุโรปตามเส้นทางที่ระบุในรายการ
  • ค่ามัคคุเทศก์จากเมืองไทยให้ข้อมูลความรู้และอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทางท่องเที่ยวที่ระบุในรายการ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางในระหว่างเดินทางวงเงินไม่เกิน 1,500,000.- บาท เงื่อนไขตามกรมธรรม์กำหนด
  • น้ำดื่มบนรถ 1 ขวด / วัน

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าจัดทำหนังสือเดินทาง (Passport)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น อาหารเครื่องดื่มนอกเหนือจากรายการที่ระบุ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ มินิบาร์ในห้องพัก ฯลฯ
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋ากรณีเกินกว่าสายการบินกำหนด (การบินกำหนดกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง 20 กก./ท่าน กระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้ 7 กก./ท่าน)
  • ค่าบริการขนย้ายกระเป๋าส่งที่ห้องพักในโรงแรมที่พัก (ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ป้องกันการสูญหาย ส่งผิด ส่งล่าช้าหรือกระเป๋าพลัดหลงไปกับคณะอื่น แต่หากท่านต้องการความช่วยเหลือในการขนย้ายกระเป๋า กรุณาแจ้งหัวหน้าทัวร์ ทางหัวหน้าทัวร์ยินดีช่วยเหลือท่านด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง)
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (หัวหน้าทัวร์) ธรรมเนียมปฏิบัติสากล 1,000.- บาท / ท่าน

การชำระค่าบริการ /การจองทัวร์

  • ผู้เดินทางหรือผู้จองทัวร์ต้องชําระค่ามัดจําท่านละ 30,000.- บาท ภายใน 3 วันหลังจากสำรองที่นั่ง
  • ผู้เดินทางหรือผู้จองทัวร์ชำระค่าบริการส่วนที่เหลือก่อนออกเดินทางอย่างน้อย 21 วัน

*** กรุณาเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าอย่างน้อย 30 วัน ก่อนการเดินทาง กรณีช่วงไฮซีซั่น 45 วัน***