เยอรมนี ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย

รวบรวมและคัดสรรค์เส้นทางยุโรป “ยอดฮิต” พร้อมเพิ่มเติมเส้นทางเที่ยวให้ “หลากหลาย” มาจัด เราจึงขอเสนอเส้นทางใหม่ที่ครบทุกอารมณ์ของการเที่ยวยุโรป

โดย สายการบินไทย THAI AIRWAYS

เดินทางวันที่ 01-11 ธ.ค. 2561       

** วันหยุด วันพ่อแห่งชาติ + วันรัฐธรรมนูญ **

คลิก>>>โหลดโปรแกรม…

วัน เสาร์ ที่ 01 ธ.ค.61

สนามบินสุวรรณภูมิ – กรุงเทพฯ – แฟรงค์เฟิร์ต (1)

20.30 น.        คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูทางเข้า หมายเลข 2 – 3 เคาน์เตอร์ D โดย สายการบินไทย (TG) พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสาร

23.40 น.        ออกเดินทางสู่ แฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี โดยเที่ยวบินที่ TG 920  (ใช้เวลาเดินทาง 12.10 ชั่วโมง)

วัน อาทิตย์ ที่ 02 ธ.ค.61

แฟรงค์เฟิร์ต (เยอรมัน) – ไฮเดลเบิร์ก – ปราสาทไฮเดลเบิร์ก – ชเปเยอร์ – สตราสบูร์ก (ฝรั่งเศส) (2)

 05.50 น.       เดินทางถึง สนามบินกรุงแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี นำท่านผ่านพิธีการศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง นำท่านเดินทางสู่เมือง  ไฮเดลเบิร์ก HEIDELBERG (ระยะทาง 75 ก.ม./ 1 ชม.) เป็นเมืองที่แสดงความ เป็นตัวตนของความเป็นเยอรมันโรแมนติกได้ดีที่สุด ตั้งอยู่บนชายป่าโอเดนวาลด์ (ODENWALD MOUNTAIN CHAIN) ที่ซึ่งแม่น้ำเนคการ์ (NECKAR RIVER) ไหลมาบ  รรจบกับแม่น้ำไรน์ (RHINE RIVER) และตัวเมืองตั้งเด่นเป็นตระหง่านอยู่บนเนินริมฝั่งแม่น้ำ ไฮเดลเบิร์ กเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ของศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบโกธิคสมัยกลางและเคยถูกกองทัพฝรั่งเศสบุกเข้าทำลายเมื่อปีค.ศ 1689 และในปีค.ศ 1693 นอกจากนั้นยังเป็นเมืองทางประวัติศาสตร์ของไทยเมืองหนึ่ง เนื่องจากพ  ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ทรงประสูติ ณ เมืองนี้ และอัลเบิร์ต ไอสไตน์ เคยมาเดินบนเส้นทางนักปราชญ์ของเมืองนี้แล้ว

นำท่านแวะชม ปราสาทไฮเดลเบิร์ก HEIDELBERG CASTLE  ซึ่งในอดีตเป็น  ป้อมปราการ และต่อมาได้ถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นปราสาทเมื่อปีค.ศ 1544 แม้ปราสาทแห่งนี้จะเคยถูกเผาและทำลายไปบ้างในสมัยสงคราม แต่ก็ยังคงสภาพความสวยงามอยู่เหนือแม่น้ำเนคการ์ได้จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ อิสระให้ท่านตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามของปราสาท พร้อมชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำและเมืองไฮเดลเบิร์ก ซึ่งถือเป็นสถานที่ชมวิวที่สวยที่สุดที่ท่านไม่ควรพลาด ก่อนนำท่านสู่ ย่านเมืองเก่า นำท่านแวะบันทึกภาพกับ โบสถ์พระจิตอันบริสุทธิ์ Churh of Holy Spirit ที่ตั้งอยู่ใจกลางตลาดเมืองเก่า รายล้อมไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร บาร์ และแหล่งช้อปปิ้งเรียงราย นำท่านบันทึกภาพกับอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้  สะพานเก่า Old Bridge หรือ สะพานคาร์ล ธีโอดอร์ อีกหนึ่งจุดชมวิวที่สามารถถ่ายภาพสวยของเมืองเก่าโดยมีปราสาทไฮเดลเบิร์กตั้งอยู่บนเนินเขา

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นเดินทางสู่เมือง ชเปเยอร์ Speyer (ระยะทาง 35 กม./ 30 นาที) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของของ รัฐไรน์ลันด์-พฟัลซ์ RheinlandPfalz หรือ ไรน์แลนด์-พาลาทิเนต RhinelandPalatinate รัฐที่ตั้งอยู่ตรงใจกลางเทือกเขาซีเฟอร์เกเบียร์เก อีกหนึ่งดินแดนของเยอรมนีที่ถูกห้อมล้อมด้วยนิยายปรัมปราอันน่าหลงใหล และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประ  เทศเยอรมนีอีกด้วย

นำท่าน เดินชม เมืองเก่าบริเวณ ถนน  Maximilian สองฝั่งเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนอันเก่าแก่และเป็นเอกลักษณ์ ผ่านชม อาคารศาลากลาง อันสดใสที่เพิ่งบูรณะใหม่หลังจากโดนไฟไหม้เสียหายในปี ค.ศ. 1689 ก่อนนำท่าน บันทึกภาพ กับ มหาวิหารชเปเยอร์  Speyer Cathedral มหาวิหารเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในใจกลางของตัวเมือง ชไปเออร์ และยังเป็นที่ฝังพระบรมศพของพระมหากษัตริย์เยอรมันและพระจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ 8  พระองค์ ซึ่ง  ต่อมาองค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศให้มหาวิหารแห่งนี้เป็นมรดกโลกในปี 1981 อีกฝั่งปลายของถนนจะเป็น ประตูเมืองเก่า Old Gate เป็นประตูเมืองยุคกลางที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมือง อีกทั้งยังเป็นหนึ่งใน  ประตูเมืองเก่า ซึ่งเดิมคือ 68 ประตู ปัจจุบันประตูเมืองแห่งนี้ได้กลายเป็นเป็นหนึ่งในประตูเมืองเก่าที่ใหญ่ที่สุด (55 เมตร) ประตูนี้จะหันหน้าเข้าวิหารชเปเยอร์ ซึ่งถือเป็นจุดสิ้นสุดของถนน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง สตราสบูร์ก Strasbourg (ระยะทาง 120 ก.ม./ 1.30 ชม.) เมืองหลวงแห่ง แคว้นอัลซาส (Alsace) แห่งฝรั่งเศส  เป็นเมืองมรดกโลกด้านมนุษยชาติขององค์การยูเนสโก เป็นเมืองที่เรียกได้ว่ามี 2 วัฒนธรรมคือ ฝรั่งเศสและเยอรมัน เนื่องจากผลัดกันอยู่ภายใต้การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา สตราสบูร์กเป็นเมืองใหญ่มีสถาปัตยกรรมสมัยโบราณเป็นร่องรอยประวัติศาสตร์ให้ชาวเมืองปัจจุบันได้ชื่นชม

ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร     

พักที่   Hilton Strasbourg – France    ****4ดาว

วัน จันทร์ ที่ 03 ธ.ค.61

หมู่บ้านฝรั่งเศสแสนสวย ( เกเซอร์สแบร์, ริคเวียร์, อองกีเชม) – กอลมาร์ – เดินเล่นชมเมือง(3)

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

วันนี้เป็นวันท่องเที่ยวบรรดาหมู่บ้านฝรั่งเศส ที่ได้รับการขนานนามว่า Les Plus Beaux Villange de France หรือ หมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส ต้นแบบหมู่บ้านฝรั่งเศสที่หลายๆที่นำไปก่อสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยว วันนี้จะเที่ยวสบายๆ วิ่งรถไม่ไกล มีเวลาให้ท่านได้เดินอิ่มเอมกับความน่ารักของแต่ละหมู่บ้าน ได้เวลานำท่านสู่เมือง      ริคเวีย  (ระยะทาง 72 ก.ม./ 1.15 ชม.) เมืองที่ติดกับเมืองกอลมาร์ เป็นแหล่งปลูกไวน์ชั้นเลิศของแคว้นอาลซาส และเป็นหนึ่งใน Les Plus Beaux Villange de France หรือ หมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก Unesco อีกด้วย นำท่านเดินชมบ้านเรือนที่อยู่ในหุบเขา ล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่นที่ไว้สำหรับทำไวน์ โดยเฉพาะช่วงเดือน  เม.ย – พ.ย. จะเห็นต้นองุ่นที่ถูกปลูกสวยงามยิ่งนัก ท่านสามารถลิ้มลองชิมไวน์รสเลิศของแคว้นและซื้อเป็นของฝากคนทางบ้านตามอัธยาศัย

               *** ตลาดคริสต์มาสใน Riquewihr ***

จะจัดขึ้นตั้งแต่  วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม ถึง วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม 2561

เวลา 10.00 น. ถึง 18.30 น. ในวันธรรมดา และ เวลา 10.00 น. ถึง 19.30 น. ในวันเสาร์ – วันอาทิตย์

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเกเชอร์สแบรก์ Kaysersberg (ระยะทาง 10 ก.ม./ 15 นาที) ดินแดนบนเชิงเขาโดยเอกลักษณ์ของเมืองสวยแห่งนี้ คือ บ้านเรือนเป็นแบบอนุรักษ์สไตล์ “ทิมเบอร์ เฟรมเฮ้าส์” ซึ่งเป็นสไตล์ที่ใช้ไม้เป็นวัสดุสำคัญอีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงแห่งแรกๆในแควน้อัสซาสอีกดว้ย นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีศิลปะสถาปัตยกรรมออันหลากหลายยุคผสมผสานกันอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ ให้ท่านได้เยี่ยมชมและถ่ายภาพความสวยงามตามอัธยาศัย พลาดไม่ได้กับบ้านเรือนอันเป็นเอกลักษณ์มาก

               *** ตลาดคริสต์มาสใน Kaysersberg ***

จะจัดขึ้นตั้งแต่  วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน ถึง วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2561

วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม ถึง วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2561

วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม ถึง วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2561

วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม ถึง วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม 2561

เวลา 10.00 น. ถึง 18.30 น. ในวันธรรมดา และ เวลา 10.00 น. ถึง 19.30 น. ในวันเสาร์ – วันอาทิตย์

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านอองกีเชม EGUISHEIM (ระยะทาง 14 ก.ม./ 20 นาที) หมู่บ้านที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “อีกหนึ่งหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส” รวมทั้งเป็นหนึ่งในเส้นทางการชิมไวน์ทางตะวันออกของประเทศ อีกทั้งยังเป็นหมู่บ้านที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของแคว้นอัลซาสอีกด้วย นำท่านเดินชม ความงดงามไปตามถนนอันคดเคี้ยวของหมู่บ้าน ตื่นตาไปกับความงดงามของเหล่าอาคารบ้านเรือนที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นยุคกลางไว้เป็นอย่างดี ชมความเก่าแก่ของอาคารไม้โบราณที่แต่งแต้มด้วยสีสันสีสดใส และเดินลัดเลาะไปชมหมู่ดอกไม้หลากสีสันที่ออกดอกชูช่อตามระเบียงบ้าน เสมือนกับภาพวาดสีน้ำมันที่สดใสประดับประดาเมืองโรแมนติกแห่งนี้ได้อย่างดีเยี่ยม

  *** ตลาดคริสต์มาสใน Eguisheim ***

จะจัดขึ้นตั้งแต่ วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน ถึง วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม 2561

เวลา 09.00 น. ถึง 19.00 น. ในวันธรรมดา , วันอาทิตย์ และเวลา 09.00 น. ถึง 20.00 น. ในวันเสาร์/นำท่านเดินทางสู่เมือง กอลมาร์ Colmar (ระยะทาง 7 ก.ม./ 10 นาที) เมืองเล็กๆอันเป็นเมืองบ้านเกิดของจิตรกร และช่างแกะพิมพ์มาร์ติน โชนเกาเออร์ และประติมากรเฟรเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดี ผู้ออกแบบอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ เป็นเมืองที่มีความโรแมนติก เมืองหนึ่งของฝรั่งเศส และเป็นสถานที่ที่คู่รักมักจะให้คำสัญญาในความรักระหว่างกันและกันด้วยบรรยากาศที่สวยงามสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่จึงทำให้เมืองกอลมาร์เป็น   อีกหนึ่งในสถานที่โรแมนติกในฝันของใครอีกหลายคน

นำท่าน ชมเมืองกอลมาร์ ดินแดนแห่งความงาม ที่มีตึกราบ้านช่อง สวยงามมีจุดเด่นอยู่ที่ความงามของดอกไม้ ที่มีอยู่ทั่วเมือง จัดเป็นอีกเมืองที่ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติกจนได้รับการขนานนามว่า “ลิตเติ้ลเวนิซ” ปัจจุบันเมืองเก่าแก่แห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่น่ามาเยือนเป็นอันดับต้นๆของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมและบรรยากาศของเมืองโบราณ มีบ้านเรือนที่สวยงาม และได้รับการดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี บ้านเรือนแบบนี้ เรียกว่า Colombage (ฝรั่งเศส) หรือ Fachwerkhaus (เยอรมัน) อิสระท่านเดินพักผ่อน เก็บภาพความสวยงามของเมือง หรือจะเลือกชิลนั่งจิบกาแฟรับแสงแดดสูดอากาศอันสดชื่น ให้สมกับที่ท่านได้มาเยือนสถานที่อันโรแมนติกแห่งนี้

                         *** ตลาดคริสต์มาสใน Colmar ***

จะจัดขึ้นตั้งแต่ วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน ถึง วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม 2561

เวลา 10.00 น. ถึง 19.00 น. ในวันจันทร์ – พฤหัสฯ และ เวลา 10.00 น. ถึง 20.00 น. ในวันศุกร์ – อาทิตย์

ค่ำ       รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  

ที่พัก    Mercure Colmar Center Unterlinden – France    ****4ดาว

วัน อังคาร ที่ 04 ธ.ค.61

กรุงเบิร์น (สวิตเซอร์แลนด์) – ทะเลสาบมรกต Blausee – อินเทอลาเค่น (4)

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่ได้รับการยอมรับว่า เป็น 1 ในเรื่อง      ภูมิประเทศที่งดงามที่สุด รถโค้ชจะนำท่านเดินทางผ่านเมืองชนบทน้อยใหญ่เข้าสู่บริเวณพรมแดนของสวิสฯ และจะจอดให้ท่านได้กระทำการ ประทับตราศุลกากร Custom Stamp สำหรับท่านที่มีซื้อสินค้าก่อนหน้านี้และได้ซองภาษี Tax refund จากทางร้านค้ามา (สำหรับสินค้าที่จะซื้อในประเทศสวิส สามารถกระทำที่สนามบินวันสุดท้ายได้)

นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น Berne (ระยะทาง 234 กม. / 3.30 ชม.) นครหลวงอันเก่าแก่ของสวิตเซอร์แลนด์ เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงสวยงามเป็นอย่างยิ่งจนได้รับการอนุรักษ์ และประกาศให้เป็น “มรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้” ตั้งอยู่เนินเขา ซึ่งที่จุดนี้สามารถชมทิวทัศน์ของตัวเมืองเก่าได้ในมุมกว้าง จากนั้นเที่ยวชม เบเร็นกราเบ็นหรือบ่อหมี สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง ลังจากนั้น เดินทางเข้าสู่ย่าน มาร์คกาสเซ ย่านเมืองเก่า ซึ่งปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้ และร้านบูทีค นำชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี  เข้าสู่ ถนนครัมกาสเซ เต็มไปด้วยร้านภาพวาด และร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ นำคณะชม นาฬิกาไซ้ท์ กล็อคเค่น อายุกว่า 800 ปี ที่มีโชว์ให้ดูทุกๆชั่วโมงที่นาฬิกาตีบอกเวลา และกรุงเบิร์นยังเป็นเมืองที่มีน้ำพุมากที่สุดเมืองหนึ่งในยุโรป

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นนำท่านสู่ ทะเลสาบบลาวซี  Blausee (ระยะทาง 54 ก.ม./ 1 ชม.) ทะเลสาบน้ำใสสีเทอควอยซ์ จุดเด่นของทะเลสาบเล็กอันนี้คือความสวยใสถึงขนาดเห็นปลาเทราซ์ของบ่อน้ำแห่งนี้ ทางเอกชนได้เพาะพันธ์ปลาไว้และเปิดให้นักตกปลาได้เข้ามาตกได้

ก่อนเดินทางต่อสู่เมือง อินเทอลาเค่น Interlaken (ระยะทาง 35 กม./ 45 นาที) เมืองหลวงของแบร์น  เนอร์โอเบอร์ลันด์ เมืองตากอากาศ สวยงามพร้อมทะเลสาบ 2 แห่งกลางเมือง ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสอง  แห่งคือ Thunersee และ Brienzersee ท่ามกลาง  เทือกเขาน้อยใหญ่ อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง ชมวิวของเทือกเขาอันลือชื่อ , นาฬิกาดอกไม้ , สถานคาสิโน ฯลฯ ตรงนี้แหละคือสวิสฯแบบสุดสุด อย่างที่หลายคนยังไม่เคยได้สัมผัส และยังใช้เป็นฉากภาพยนต์ไทยเรื่อง “วันนี้ที่รอคอย” ท่านสามารถเลือกเดินเล่นผ่อนคลายอริยาบทสบายๆ สูดอากาศบริสุทธิ์สดชื่นของสวิสให้เต็มปอด หรือ ท่านสามารถเลือกเดิน ช้อปปิ้งสินค้าสวิสเมด ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น นาฬิกาแบรนด์ดัง, มีดพับสวิส, เครื่องหนัง Bally หรือ ช๊อกโกแลต  

ค่ำ       รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  

พักที่    Hotel Interlaken – Switzerland    ****4ดาว

วัน พุธ ที่ 05 ธ.ค.61

สถานีรถไฟกรินเดลวาลด์ – นั่งรถไฟฟันเฟือง – ยอดเขาจุงเฟรา Top of Europe – ลูเซิร์น (5)

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาลด์ Grindelwald จุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวยอดเขาจุงเฟรา ในปี 2001 UNESCO ประกาศให้ยอดเขาจุงเฟรา เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป นำท่าน สัมผัสกับประสบการณ์นั่งรถไฟฟันเฟือง ผ่านชมแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติของ JUNGFRAUBAHN ขึ้นพิชิตยอดเขาจุงเฟราที่มีความสูง  กว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุต ซึ่งได้ รับการ  ยกย่องว่าเป็น TOP OF EUROPE ระหว่างเส้นทางนำท่านสู่ยอดเขา แวะชมกลาเซียร์ หรือ ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ จนถึงสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป บนสถานีปลายทาง จุงฟราวบาห์น

นำคณะ เพลิดเพลินและสนุกสนานไปกับการเล่น หิมะในลานกว้าง จุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรป มองเห็นได้  อยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Aletsch ที่ ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ยาวถึง 22 ก.ม. และหนา 700 เมตรโดยไม่เคย ละลาย อิสระให้ท่านได้สนุกสนานและเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนยอดเขาจุงเฟรา และ ไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ด โดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป

***หมายเหตุ   การพิชิตยอดเขาจุงเฟรา เวลาอยู่ข้างบนยอดเขา ท่านอาจจะเหนื่อยและเพลียมากกว่าปกติ ด้วยสภาพอากาศที่น้อย พยายามอย่าออกแรงเยอะ

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านลงจากเขาโดยรถไฟฟันเฟือง แล้วนำท่านขึ้นรถโค้ชคันเดิมเพื่อเดินทางต่อสู่เมือง ลูเซิร์น Luzern (ระยะทาง 70 กม./ 1 ชม.)  ซึ่งเป็นอดีตหัวเมืองโบราณของสวิสเซอร์แลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า “หลังคาแห่งทวีปยุโรป” (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมี ภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับ  แซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม สำหรับเลี้ยงสัตว์ และเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่านักท่องเที่ยวบันทึกภาพไว้มากที่สุด

พาท่านชม สิงโตหินแกะสลัก Dying Lion of Lucerne บนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึง  การสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ผ่านชม สะพานไม้ชาเปล Chapel Bridge ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิสตลอดแนวสะพาน

ค่ำ       รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  

พักที่    Radisson Blu Lucerne  –  Switzerland    ****4ดาว

วัน พฤหัสฯ ที่ 06 ธ.ค.61

แซงค์ กัลเลน – รถไฟสาย Appenzeller – หมู่บ้านอัพเพนเซล – ฟุสเซ่น (เยอรมนี) (6)

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนั่งรถโค้ชเข้าสู่เมือง แซงค์ กัลเลน St.Gallen (ระยะทาง 147 กม./ 2.15 ชม.) อีก 1 เมืองสวยของสวิตเซอร์แลนด์ที่  มีโบสถ์สไตล์บาร็อค แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองและมีความสําคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป วิจิตรตระการตาไปด้วยงานศิลปะที่รวบรวมช่างทุกแขนงมาสร้างสรรค์ผลงานอันเป็นที่มาของงานศิลปะบริสุทธิ์มากมายซึ่งมีต้นกําเนิดมาจากสถานที่แห่งนี้ นอกจากนี้อิทธิพลแบบบาร็อคยังคงเห็นได้เด่นชัดจากอาคารบ้านเรือน ที่ตกแต่งด้านหน้าอย่างวิจิตรบรรจงอิสระให้ท่านได้ชมความงดงามของบ้านเรือนที่เป็นเอกลักษณ์ สมควรแก่เวลานำท่านสู่ สถานีรถไฟ เพื่อนำท่าน นั่งรถไฟสาย   Appenzeller Bahn รถไฟเส้นทางชนบทที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1904 วิ่งจากเมืองแซงค์กัลป์เลนสู่เมือง อัพเพนเซล Appenzell เมืองแห่งกระดิ่งวัว, ชีส และขนมบีเบอร์ (Biber) รถไฟจะลัดเลาะเข้าสู่เส้นทางสายชนบท ผ่านทุ่งหญ้าที่จะเขียวขจีในยามหน้าร้อนและขาวโพลนในฤดูหนาว ผ่านบ้านเรือนชาเล่ต์แบบสวิสแสนน่ารัก ถือเป็นอีก 1 เส้นทางรถไฟที่สวยมากในสวิตเซอร์แลนด์ Unseen  รถไฟเทียบชานชลา อัพเพนเซล

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

 อิสระให้ท่านได้เดินเล่น ชมความงดงามของเมืองเล็กๆ กลางหุบเขาแสนน่ารักแห่งนี้ บริเวณถนนเมืองเก่าหน้าสถานีรถไฟจะมีร้านต่างๆ อาทิ ร้านขายชีส, ร้านขายขนมบีเบอร์ หรือร้านขายเสื้อผ้าพื้นเมือง ที่เค้าว่ากันว่า เสื้อประจำชาติพื้นเมืองชาวสวิสฯ คิดค้นขึ้นที่เมืองนี้  จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ฟุสเซ่น Fussen (ระยะทาง 100 ก.ม. / 1.30 ช.ม.) เมืองสุดท้ายบนถนนสายโรแมนติก ซึ่งเคยมีความรุ่งเรืองในอดีตตั้งแต่ยุคโรมันใช้เมืองนี้เป็นจุดแวะพักขนถ่ายสินค้าและซื้อขายเกลือมาแต่โบราณ โดยปัจจุบันบรรยากาศตัวเมืองมีบรรยากาศที่แสนจะน่ารัก มีร้านอาหาร, โรงแรมที่พัก ตลอดจนร้านขายของที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ค่ำ       รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  

พักที่   Hirsch Hotel – Fussen, Germany   ****4ดาว

วัน ศุกร์ ที่ 07 ธ.ค.61

ชวานเกา – ปราสาทนอยชวานสไตนน์ – บาดไรนเค่นฮาล (7)

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นเดินทางสู่ หมู่บ้านชวานสเกา (ระยะทาง 104 กม./ 1.45 ชม.) นำท่าน ขึ้นชม ปราสาทนอยชวานสไตน์ ของกษัตริย์ลุดวิคที่สองแห่งบาวาเรีย ทรงได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างปราสาท จากความหลงใหลในการแสดงอุปรากร ต่อมาปราสาทนอยชวานสไตน์ ก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบฉากบัลเล่ต์และละครอีกนับร้อย ๆ เรื่อง ปราสาทนี้เป็นเหมือนปราสาทในเทพนิยายที่มีมนต์เสน่ห์ที่สุดในโลกและเป็นแบบจำลองให้วอลท์ ดิสนีย์ นำไปสร้างเป็นปราสาทของเจ้าหญิงในภาพยนตร์เรื่องเจ้าหญิงนิทรา ปราสาทเทพนิยายนอยชวานสไตน์ นี้ตั้งอยู่เหนือโกรกธารขรุขระของแม่น้ำพอลแล็กในเทือกเขาแอลป์ เป็นปราสาททรงเสน่ห์ที่มีมนต์ขลังที่สุดในโลก หอคอยสีง  าช้างของปราสาทดูลอยเด่นอยู่กลางป่าสนเขียวขจี กำเนิดขึ้นจากความฝันของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 เพียงพระองค์เดียว ผู้ทรงบันดาลให้เป็นจริงด้วยพระราชทรัพย์อันมหาศาล นำท่านสู่ จุดชมวิวถ่ายรูปปราสาททั้งหลัง แล้วเดินชมความร่มรื่นของแนวป่าสนสู่ตัวปราสาท แล้ว นำเข้าชมความวิจิตรพิศดารของตัวปราสาทภายใน ที่พระองค์ทุ่มเทพระราชทรัพย์เพื่อเนรมิตฝันให้เป็นจริง ชมผลงานชิ้นเอกของจิตรกร ประติมากร และช่างแกะไม้ฝีมือเยี่ยม นำชมห้องบัลลังก์ ห้องบรรทม ห้องทรงดนตรีโอเปร่า ถ้ำแห่งวีนัส ท้องพระโรง และห้องครัวที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น จากนั้นกลับลงสู่เชิงเขา

หมายเหตุ รถ Shuttle Bus ที่วิ่งรับ-ส่งนักท่องเที่ยวขึ้นลงปราสาท อาจมีหยุดให้บริการในช่วงฤดูหนาวหรือวันหิมะตก หากรถบัสไม่วิ่ง จะเปลี่ยนพาท่านขึ้นโดย นั่งรถม้า (นั่งได้ 8-12 คน และ รวมอยู่ในค่าบริการ เฉพาะขาขึ้นเท่านั้น) ท่านอาจจำเป็นต้องเดินขึ้นปราสาท ในกรณีที่คิวรถม้าค่อนข้างยาวซึ่งอาจมีผลทำให้ไม่ทันรอบเวลาเข้าปราสาท หากท่านไหนสละสิทธิ์ไม่เข้าปราสาท ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินทุกรณี (ระยะทางเดินขึ้นเขาใช้เวลาเดินประมาณ 25 – 30 นาที)

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้น หากมีเวลา อิสระให้ท่านได้เดินช้อปปิ้ง สินค้าพื้นเมืองในหมู่บ้านชวานเกา โดยเฉพาะกระเป๋าเดินทางชื่อดังของเยอรมันอย่าง ริโมว่า Rimowa ซึ่งซื้อที่เยอรมันจะราคาถูกกว่าที่อื่น โดยเฉพาะในชอปของหมู่บ้านนี้ นอกจากนั้นยังมีสินค้าอื่นๆ อาทิ มีดตราคนคู่, ของที่ระลึก, เครื่องสำอางค์เยอรมัน ฯลฯ ได้เวลาอันสมควรทำท่านเดินทางสู่เมือง เมืองบาดไรนเค่นฮาล Bad Reichenhall (ระยะทาง 199 กม./ 3 ชม.) เป็นเมืองแห่งบ่อเกลือ บ่อน้ำพุร้อน สปา และเป็นสถานที่รักษาบำบัดสุขภาพ และแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนของชาวยุโรป

ค่ำ       รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  

พักที่   Wyndham Grand Bad Reichenhall Axelmannstein – Germany    ****4ดาว

วัน เสาร์ ที่ 08 ธ.ค.61

เบิร์ชเทสการ์เด้น – ล่องเรือทะเลสาบโคนิก (น้ำใสที่สุดในเยอรมนี) – หมู่บ้านฮัลสตัทท์ Unesco (พัก 1 คืน)(8)

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมือง เบิร์ชเทสการ์เด้น Berchtesgarden (ระยะทาง 23 ก.ม./ 30 นาที) เมืองแห่งศูนย์กลางของเส้นทางการค้าขายพวกแรเกลือมาตั้งแต่ในสมัยอดีต

นำท่าน ล่องเรือ ชมทะเลสาบโคนิกส์เซ่ KONIGSSEE LAKE หรือ ทะเลสาบกษัตริย์ Königssee เป็นทะเลสาบในหุบเขาของเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้เมือง  เบิร์ชเทสการ์เด้น เป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงชัน นอกจากนั้นยังเป็นทะเลสาบที่ใสที่สุด สะอาดที่สุด และอยู่สูงที่สุดในประเทศเยอรมนี ด้วยเหตุนี้เองจึงอนุญาตให้เฉพาะเรือพายและเรือที่ใช้ไฟฟ้าเท่านั้น สามารถแล่นไปมาในทะเลสาบได้ อิสระท่านชมความงดงามของทิวทัศน์รอบๆ ทะเลสาบ โดยมีวิวของภูเขาเจนเนอร์ (JENNER MOUNTAIN) ภูเขาที่มีความสูงประมาณ 1,874 เมตร และ โบสถ์รูปทรงหัวหอม (St.Bartholomew) อันโด่งดัง จนได้เวลาสมควร นำท่านล่องเรือกลับสู่ฝั่ง  เรืออาจปิดบริการ หากวันนั้นสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย หรือมีเหตุจำเป็น

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

หมายเหตุ   การเดินเข้าไปยังหมู่บ้านฮัลสตัทท์ ระยะทางเดินประมาณ 650 – 700 เมตร รถใหญ่ไม่สามารถเข้าได้ ต้องจอดที่จุดจอดรถด้านหน้าหมู่บ้านที่เดียว ต้องขออภัยในความไม่สะดวก แต่รับรองว่าท่านจะประทับใจกับความสวยของหมู่บ้านแห่งนี้อย่างใกล้ชิดแน่นอน

นำท่านเดินทางสู่เมือง ฮัลสตัทท์ Hallstatt (ระยะทาง 80 ก.ม./ 1.15 ชม.) เมืองมรดกโลกเก่าแก่อายุกว่า 4,000 ปี ซึ่งมีทิวทัศน์ที่สวยงามยิ่งและดึงดูดนักเดินทางมากมายให้มายังเมืองนี้ ตัวหมู่บ้านฮัลสตัทท์เป็นเมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบ มีประชากรอาศัยไม่ถึง 1,000 คน มีฉากหลังเป็นภูเขาสูงชัน บ้านเรือนในเมืองนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่แคบๆ ริมทะเลสาบ Halls tatter Sea จึงต้องสร้างลดหลั่นเป็นชั้นๆตามแนวเขา นำท่าน

เดินเล่นเที่ยวชมเมือง  ฮัลสตัทและบรรยากาศริมทะเลสาบ Halls tatter Sea จากนั้น อิสระเวลาให้แก่ท่าน เพื่อเก็บภาพความสวยงาม และบรรยากาศอันสุดแสนโรแมนติกของเมืองฮัลสตรัทแห่งนี้อย่างเต็มอิ่มแน่นอนหมู่บ้านแห่งนี้มีมุมสวยๆเยอะมาก นอกจากมุม “มหาชน” ที่นักท่องเที่ยวเดินไปถ่ายรูปกัน แนะนำ !! ให้ท่านลองเดินหาขึ้นไปทางบริเวณด้านบนของหมู่บ้าน แล้วท่านจะได้เห็นวิวที่แตกต่าง เดินไม่ยาก เข้าตามซอย มีทั้งทางลาด และบันได ขอความกรุณาท่านอย่าส่งเสียงดังเวลาถ่ายรูป เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนชาวบ้านที่อาศัยอยู่

               *** ตลาดคริสต์มาสใน Hallstatt ***

จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม 2561  เวลา 11.00 น. ถึง 19.00 น.

ข้อมูล : https://www.im-salzkammergut.at/events/hallstatt/christmas-market-hallstatt/

ค่ำ       รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  

พักที่    Heritage Hotel – Hallstatt, Austria    ****4ดาว    (เที่ยวกับเพอร์เฟคแพลน ต้องพักในฮัลสตัทท์เท่านั้น)

***หมายเหตุ กรุณาจัดเตรียมสัมภาระสำหรับพักค้างคืนในหมู่บ้านฮัลสตัทท์ 1 คืน แยกใส่กระเป๋าใบเล็ก เพื่อความสะดวกในการเข้าพัก ส่วนกระเป๋าใหญ่จะเก็บไว้ใต้ท้องรถ

วัน อาทิตย์ ที่ 09 ธ.ค.61

พิเศษ !! พาขึ้นจุดชมวิวของหมู่บ้าน – มิวนิค (เยอรมัน) – ชมเมือง – BMW WORLD –ลิ้มรสขาหมูเยอรมัน (พร้อมเครื่องดื่มท่านละ 1 ดื่ม) (9)

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

ช่วงเช้ายังมีเวลาให้ท่านได้เก็บภาพของหมู่บ้านฮัลสตัทท์ บรรยากาศแบบแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า จะสวยมากเป็นพิเศษ  นำท่านเดินเล่นเที่ยวชมเมือง ฮัลสตัทท์และบรรยากาศริมทะเลสาบ Halls tatter Sea จากนั้น อิสระเวลาให้แก่ท่าน เพื่อให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงาม และบรรยากาศอันสุดแสนโรแมนติกของเมืองฮัลสตัทท์แห่งนี้อย่างเต็มอิ่ม   ** แถมพิเศษ ** พาท่าน ขึ้นรถราง Salzberg นำท่านชมวิวสวยมรดกโลก ณ Heritage Viewing Platform ที่ความสูง  800 เมตร ท่านจะได้เห็นภาพบรรยากาศแสนสวยของหมู่บ้าน ทะเลสาบ อันแสนโรแมนติก ดั่งฉากในละคร “เพลิงนรี”  สวีทหวานแหววเฉกเช่น คุณธีภพ (พี่ติ๊ก) และ ริสา (ใหม่ ดาวิกา)  *** รถรางอาจไม่เปิดให้บริการ หากสภาพอากาศ ณ วันนั้นไม่ดี ***

กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

เดินทางสู่ เมืองมิวนิค MUNICH (ระยะทาง 127 ก.ม./ 2.30 ชม.) นครหลวงแห่งแคว้นบาวาเรีย เมืองที่มีอาคารบ้านเรือนที่สวยงาม ต้นกำเนิดแห่งงานเทศกาลอ็อกโทเบอร์เฟสต์ เทศกาลดื่มเบียร์จัดขึ้นทุกปีช่วงปลายเดือนกันยายนและต้นเดือนตุลาคม มีคนกว่า 6 ล้านคนดื่มเบียร์ราว 5 ล้านลิตร จากนั้นชมมหานครแห่งแคว้นทางตอนใต้ เป็นเมืองที่มีบรรยากาศรื่นรมย์และเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่สวยงามมากมาย อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของภูมิภาคและเป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์ที่เด่นที่สุดในประเทศเยอรมนีอีกหลายแห่ง นำท่าน ผ่านชมย่านสำคัญๆ ผ่านชมบริเวณ สนามกีฬาโอลิมปิค ที่ทางมิวนิคได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพเมื่อปี ค.ศ.1972 บาท จากนั้น ผ่านชม BMW WORLD โชว์รูมแห่งใหม่ล่าสุดของ BMW อีกหนึ่งยนตกรรมที่โด่งดังของบาวาเรีย ให้เวลาท่านเดินชมรถบีเอ็มรุ่นใหม่ๆ พร้อมเลือกซื้อ ของที่ระลึก จากบีเอ็มและมินิคูเปอร์

ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร    พิเศษ ! ลิ้มรสขาหมูเยอรมัน พร้อมเบียร์หรือซอฟท์ดริ้ง ท่านละ 1 ดื่ม

พักที่    Sheraton Muenchen Westpark – Germany    ****4ดาว

วัน จันทร์ ที่ 10 ธ.ค.61

สนามบินมิวนิค – กรุงเทพฯ (10)

เช้า      รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

09.00 น.        เดินทางสู่ สนามบินมิวนิค เผื่อเวลาให้ท่านกระทำภาษีคืน TAX REFUND (ระยะทาง 38 ก.ม./ 40 นาที)

14.25 น.        ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ TG 925

วัน อังคาร ที่ 11 ธ.ค.61

กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) (11)

06.05 น.        เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารชั้น 2 โดยสวัสดิภาพและมีความสุข…

******************

อัตราค่าบริการ

ทัวร์ยุโรป One for All เยอรมัน ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย 11 วัน (WE-10A)

วันเดินทาง ราคาผู้ใหญ่

ห้องพักคู่

2 ท่าน

ราคาเด็ก*

พักห้อง

1 เด็ก+1 ผู้ใหญ่

ราคาเด็ก*

1 เด็ก+ 2 ผู้ใหญ่

(เสริมเตียง)

ราคาเด็ก**

1 เด็ก + 2 ผู้ใหญ่ (ไม่เสริมเตียง)

พักเดี่ยวเพิ่ม
1-11 ธันวาคม 2561 111,900 111,900 108,900 107,900 14,000

หมายเหตุ  :  เด็กต้องมีอายุ 2-12 ปี บริบูรณ์  //  เด็กอายุ 5-12 ปี โรงแรมในยุโรปจะบังคับเสริมเตียง

ตรานี้รวม

  • ตั๋วเครื่องบินไป – กลับ (ชั้น ECONOMY) ตามเส้นทางและสายการบินที่รายการระบุไว้
  • ภาษีสนามบินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและปลายทางต่างประเทศ
  • ค่าที่พัก พร้อมอาหารเช้า (ห้องละ 2 ท่าน) ในระดับดาวมาตรฐานตามโรงแรมที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า หากวันเข้าพักตรงกับช่วงเทศกาลหรืองานจัดแสดงสินค้า อาจมีการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมือง แต่จะคำนึงถึงเส้นทางและความสำคัญของลูกค้าเป็นหลัก
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามที่ระบุในรายการ
  • ค่ารถโค้ชปรับอากาศ ขนาด 49 ที่นั่ง นำเที่ยวตามสถานที่ระบุในรายการ
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท ซึ่งเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี และผู้ใหญ่อายุเกิน 75 ปีได้รับความคุ้มครองเพียง 50% ของวงเงินประกัน
  • หัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์ อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าเชงเก้น ระยะเวลาตามวันที่ระบุในรายการ
  • ค่าธรรมเนียมทิป  คนขับรถต่างประเทศ

อัตรานี้ไม่รวม 

  • ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 % และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % กรณีออกใบกำกับภาษี
  • ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ / ค่าซักรีด / ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋า ขอเรียนให้ท่านทราบว่า กรณีไม่มีบริการยกกระเป๋า ท่านผู้เดินทางทุกท่านจะต้องดูแลทรัพย์สินของท่านด้วยตนเอง
  • ค่าธรรมเนียมทิป หัวหน้าทัวร์ (ตามอัธยาศัย) ปกติท่านละ 25 ยูโร
  • ค่าปรับน้ำหนักกระเป๋าที่เกินกว่าที่ทางสายการบินกำหนด

เงือนไขการจองทัวร์

  • กรุณาชำระมัดจำท่านละ 40,000 บาท ภายใน 2 วัน จากวันจอง โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
  • ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน
  • เมื่อได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ว่าให้จัดเตรียมเอกสารขอวีซ่าได้ ท่านสามารถจัดเตรียมเอกสารขอวีซ่าได้ทันที
  • หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
  • การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะ และยื่นรายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่

หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

ติดต่อจองทัวร์หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

บริษัท บีคอนบอย ทราเวล จำกัด (ใบอนุญาตเลขที่ 11/09262)

15/2 ซ.สุคนธสวัสดิ์ 3 แยก 1 แขวง / เขต ลาดพร้าว กรุงเทพ 10230

www.beaconboytravel.com / Facebook: Beaconboy Travel / Line@:@beaconboytravel

อีเมล์: info@beaconboytravel.com เบอร์โทรศัพท์: 02-048-4757 / 091-7784757