Dolomite (อุทยานแห่งชาติ โดโลไมท์ ) หรือ “โดโลมิเต” ในภาษาอิตาเลี่ยน มีลักษณะเป็นแนวภูเขาที่ตั้งอยู่ในตอนเหนือของประเทศอิตาลี ส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาแอลป์ (Alps) ชื่อดังของทวีปยุโรป เป็นที่รู้จักดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติที่สวยงาม ในหน้าหนาวจะมีหลายจุดที่เป็นสกีรีสอร์ต ส่วนในหน้าร้อนก็ได้รับความนิยมสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งทั้งหลาย เดินป่า ปีนเขา ปั่นจักรยาน กีฬากลางแจ้ง มากันครบครัน
ด้วยความสวยงามของธรรมชาติและเส้นทางลัดเลาะแนวภูเขาในใจกลางอุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ ทำให้ถูกใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันจักรยานระดับโลกในรายการ “Maratona dles Dolomites” ซึ่งจะจัดสัปดาห์แรกต้นเดือนกรกฎาคมของทุกปี มีนักปั่นจากทั่วโลกเข้าแข่งขันร่วมหมื่นคน
ไม่เพียงแต่การแข่งขันจักรยานเท่านั้น การแข่งขันรถยนต์ก็มีเช่นกัน แต่เป็นรถยนต์วินเทจคลาสสิก รายการ “Coppa d’Oro delle Dolomiti“ที่กติกาการเข้าร่วมแข่งขัน รถยนต์วินเทจจะต้องมีการผลิตไม่เกินปี ค.ศ.1971 (เรียกว่าต้องเก่าและเก๋า) ลองชมบรรยากาศการแข่งขันจากคลิปวีดีโอของ “ACI Storico” เห็นแล้วอยากไปเข้าร่วมแข่งขันบ้าง ติดอยู่สองอย่าง ไม่มีรถยนต์วินเทจคลาสสิก และก็ไม่มีค่าสมัครเข้าแข่งขัน :p
กลับเข้ามาที่เรื่องของเรา สำหรับการขับรถชมวิวที่สวยงาม เจาะลึกเข้าใจกลางอุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ในวันนี้ จะเลือกใช้เส้นทางที่ทั้งการแข่งขันจักรยานและรถยนต์วินเทจก็ใช้เส้นทางนี้เช่นเดียวกัน แต่เราจะขับรถชิลสบาย ๆ ไม่เร่งรีบ ไม่แข่งขันกับใคร และตั้งใจใช้เวลากับความสวยงามของธรรมชาติอย่างเต็มที่
เส้นทางของเราจึงคัดเฉพาะช่วงที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุด เส้นทางที่เป็น Classic Pass ก็คือ “Pordoi Pass” และ “Falzarego Pass” นั่นเอง โดยจากจุดเริ่มต้นจนถึงจุดหมายปลายทาง เป็นระยะทางขึ้นลงเขา ทั้งหมดประมาณ 80 ก.ม. ผ่านสถานที่สำคัญดังนี้ Ortisei – Pordoi Pass – Cernadoi – Falzarego Pass – Pocol – Cortina d’Ampezzo – Misurina Lake
เริ่มเดินทางจาก “เมืองออร์ทิไซ” (Ortisei) ขับรถมุ่งหน้าไปทิศตะวันออก ใช้เส้นทาง ถนนเส้นหลัก เบอร์ SS242 ขับจนไปถึงแยกตัดเข้าถนนเส้นรอง เบอร์ SS48 ก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเส้น SS48 (ความยาวประมาณ 6.5 ก.ม.) ถนนเส้นนี้จะเริ่มเป็นเส้นทาง “Pordoi Pass” เส้นทางจะเริ่ม ขึ้น – ลง สลับกันไป มีโค้งหักศอกบ้าง เมื่อขับไปจนสุดเส้น SS48 ก็จะถึงจุดที่สูงที่สุดใน Pordoi Pass ที่ความสูงประมาณ 2,239 เมตร จอดรถแวะจิบอิตาเลี่ยนเอสเพรสโซ ชมความสวยงาม ณ จุดไฮไลท์ของ Pordoi Pass แห่งนี้
ห้ามพลาด !!! ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ อนุสาวรีย์ “Monument to Fausto Coppi” ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึง สุดยอดนักปั่นจักรยานชาวอิตาเลี่ยน “Fausto Coppi” นักปั่นผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุค ศตวรรษที่ 20 เจ้าของฉายา ” Champion of Champions ” ผู้ที่ชนะเลิศ การแข่งขันจักรยานระดับโลก “Giro d’Italia” 5 ครั้ง , “Tour de France” 2 ครั้ง , “World Championship” 1 ครั้ง และรายการอื่น ๆ อีกมากมาย
เมื่อเต็มอิ่มกับความสวยงาม ณ จุดสูงสุดของ Pordoi Pass เรียบร้อยแล้ว เดินทางต่อโดยมุ่งหน้าไปทิศทางเดิม (ทิศตะวันออก) ถนนเส้นเดิม แต่เลขประจำถนนจะเปลี่ยนเป็น SR48 เราจะใช้ถนนเส้นนี้เส้นเดียว จนไปถึงเมือง “คอร์ติน่า ดิ อัมเปสโซ” (Cortina d’Ampezzo) อีกหนึ่งเมืองดังในเขตอุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ ที่มีชื่อเสียงเรื่องสกีรีสอร์ท และได้ชื่อว่าเป็นประตูสู่โดโลไมท์
จากจุดสูงสุดของ Pordoi Pass เมื่อเดินทางมาได้ระยะทาง 21 ก.ม. จะถึงเมืองเล็กที่มีชื่อว่า “เชอรนาดอย” (Cernadoi) ณ จุดนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของ “ฟัลซาเรโก พาส” (Falzarego Pass) ที่มีความยาวของพาส ประมาณ 18 ก.ม. ไปจบเส้นทางพาสที่ เมือง “ปอกอล” (Pocol) เตรียมตัวเพลิดเพลินกับความสวยงามอลังการธรรมชาติสร้างอีกครั้ง ของ “ฟัลซาเรโก พาส” เส้นนี้
จากนั้น ใช้ถนน SR48 เส้นเดิม ขับผ่านเมือง “คอร์ติน่า ดิ อัมเปสโซ” เมืองสกีรีสอร์ทที่หากไม่ได้มาเล่นสกี ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจมากนัก และอีกเพียงแค่ 15 ก.ม. ก็จะถึงทะเลสาบ “มิซูริน่า” (Misurina) จุดหมายปลายทางของเรา อีกทั้งโรงแรมที่พักสำหรับคณะเราวันนี้ ก็ตั้งอยู่ที่ริมทะเลสาบมิซูริน่าด้วย ดังนั้นจึงเลือกที่จะมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทาง ปิดภารกิจการขับรถชิล จากนั้นจะได้ใช้เวลาที่เหลือสำหรับวันนี้เพลิดเพลินกับความสวยงามของทะเลสาบมิซูริน่าได้อย่างเต็มที่จนถึงเวลาพลบค่ำยามย่ำสนธยา
สำหรับอุทยานแห่งชาติโดโลไมท์ ส่วนมากจะเป็นสถานที่เที่ยวที่อยู่ในโปรแกรมทัวร์ อิตาลีเหนือ หรือ ออสเตรีย-สโลวีเนีย-อิตาลี หากท่านสนใจ สามารถ คลิกลิงค์เยี่ยมชมตัวอย่างโปรแกรม ทัวร์ของเรา หรือติดต่อสอบถามทางบีคอนบอยทราเวลได้ ทุกช่องทางติดต่อที่ท่านจะสะดวกติดต่อมาหาเรา ยินดีบริการรับใช้ทุกท่าน
***ขอขอบคุณอากาศดีๆตลอดการเดินทางและภาพสวย ๆ จาก คุณ Chanchao Amaritchok***