บินตรงสบายสู่ กรุงเวียนนา และปิดท้ายที่ มิวนิค

เส้นทางไม่ย้อน สวย ครบ เป้ะ ปัง คลาสสิค !!

เราออกแบบเส้นทางเอง เก็บครบทุกเมืองสวยมรดกโลก

เข้าชม ปราสาทนอยชวานสไตนน์ ที่คุณจะหลงใหล เหมือนกับหลุดเข้าไปในโลกแห่งเทพนิยาย

เยือนหมู่บ้านเล็กๆแต่มีสเน่ห์ของแคว้นบาวาเรีย อย่าง ฟุสเซ่น Fussen
 คลิก>>>โหลดโปรแกรม…

รายละเอียดการเดินทาง

วันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม 61

สนามบินสุวรรณภูมิ

21.00 น.          คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 2 เคาน์เตอร์ สายการบินไทย เคาน์เตอร์ D สังเกตป้ายบริษัท… พบกับเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยดูแลเช็คสัมภาระและบัตรที่นั่งบนเครื่อง

วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม 61

กรุงเทพฯ – เวียนนา – พระราชวังเชิร์นบรุนน์ – Ringstrasse – บราติสลาวา – ชมเมือง – ช้อปปิ้ง

01.20 น.          ออกเดินทางสู่ กรุงเวียนนา โดยเที่ยวบินที่ TG 936 (บินตรงประมาณ 10 ชม.)

07.15 น.          เดินทางถึง นครเวียนนา เมืองหลวงแสนสวยของประเทศออสเตรีย หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ กรุงเวียนนา Vienna (ระยะทาง 20 ก.ม./ 25 นาที) เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย

นำท่าน เข้าชม ความงามของ พระราชวังเชิร์นบรุนน์ Schönbrunn Palace แห่งราชวงศ์ฮัปสเบิร์ก ซึ่งมีประวัติการสร้างมาตั้งแต่กลางคริสตศตวรรษที่ 16 และต่อมาจักพรรดินี พระนางมาเรีย เทเรซ่า ให้สร้างขึ้นใหม่อย่างสง่างามด้วยจำนวนห้องถึง 1,441 ห้อง ในระหว่างปี ค.ศ. 1744-1749 เพื่อใช้เป็นพระราชวังฤดูร้อน ชมความโอ่อ่าของท้องพระโรง และพลับพลาที่ประทับ ซึ่งได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงสวยงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ของฝรั่งเศส จากนั้นนำท่านผ่านชม ถนนสายวงแหวน Rin  gstrasse ซึ่งป็นเส้นทางท่องเที่ยวสายหลักของกรุงเวียนนา ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่อันงดงาม ผ่านชม โรงละครโอเปร่า ที่สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1863-1869 แต่ตัวอาคารได้ถูกทำลายไปในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเปิดใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ. 1955 ผ่าน พระราชวังฮอฟบูร์ก Hofburg Palace  ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารที่เคยเป็นที่ประทับของราชสำนักฮัปสบูร์ก มาตั้งแต่คริสศตวรรษที่ 13 จนถึงต้นคริสตศตวรรษที่ 20 ผ่านชม ตึกรัฐสภา ซึ่งสร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1873-1883 เคยถูกใช้เป็นที่ทำการของสภาจักรวรรดิออสโตร – ฮังกาเรียนมาก่อน

กลางวัน           รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ปราสาทบราติสลาวา

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ บราติสลาวา BRATISLAVA (ระยะทาง 35 ก.ม. / 35 นาที) นครหลวงแห่งสาธารณรัฐสโลวาเกีย เมืองบราติสลาวาเป็นเมืองหลวงที่มีอาณาเขตติดต่อกับ 2 ประเทศ คือ ออสเตรียและฮังการี เป็นที่ตั้งของรัฐสภา, มหาวิทยาลัย, พิพิธภัณฑ์ รวมทั้งโรงละครอันเก่าแก่ นำท่าน ขึ้นชมภายนอก ปราสาทบราติสลาวา ซึ่งถือเป็นจุดชมวิวที่สวยมาก ตัวปราสาทตั้งอยู่บนเนินเขาเบเธียนเหนือลุ่มแม่น้ำดานูบ ท่านสามารถชมวิวของตัวเมืองได้กว้างไกลสุดสายตา จากนั้นนำท่านสู่ เขตเมืองเก่า สู่ จัตุรัสกลางเมือง ชม  ลานน้ำพุแม๊กซิมิลเลียน แห่งกษัตริย์แม๊กซิมิลเลียนที่ 2 ซึ่งเป็นลานน้ำพุที่โด่งดังที่สุดของประเทศสโลวาเกีย จากนั้นนำท่าน บันทึกภาพ กับโรงละครโอเปร่าอันงดงาม ก่อนนำท่านสู่ AUPARK ห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่และเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเมือง รวบรวมร้านค้าแบรนด์ต่างๆมากมาย อาทิ Adidas, Barbour, Bobbi brown, Celvin klein jean, Forever 21, GANT, GEOX, H&M, Humanic, แผนกกีฬา INTERSPORT, MANGO, Massimo Dotti, NIKE, Pandora, ZARA ฯลฯ นอกจากนั้นยังมีซุปเปอร์มาร์เก็ตให้ท่านได้เลือกซื้อเลือกหา อิสระท่านเดินเล่นช้อปปิ้งตามอัธยาศัย จนกระทั่งสมควรแก่เวลา

ค่ำ                    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร     

 พักที่                Falkensteiner Hotel Bratislava  **** 4ดาว

วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม 61

กรุงปราก – ปราสาทปราก – มหาวิหารเซนต์วิตุส – สะพานชาร์ล – นาฬิกาดาราศาสตร์

 เช้า                  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำคณะเดินทางสู่ กรุงปราก Prague (ระยะทาง 329 / 3.30 ชม.) ระหว่างทางชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์และหมู่บ้านชนบทอันเงียบสงบตลอดเส้นทางการเดินทาง จนกระทั่งเข้าสู่ “กรุงปราก” เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ค ซึ่งตั้งอยู่ริมสองฟากฝั่งแม่น้ำวัลตาวา มีประชากรทั้งสิ้นประมาณ 1.2 ล้านคน ยูเนสโก (UNESCO) ประกาศให้กรุงปรากเป็นเมืองมรดกโลก เนื่องจากกรุงปรากเป็นเมืองเก่าแก่ ซึงได้สมญานามมากมาย เช่น นครแห่งปราสาท โรมแห่งอุดรทิศ และยังมีสถานสิ่งปลูกสร้างสำคัญ ๆ ที่สวยงามมากมาย

กลางวัน           รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านขึ้นสู่ ปราสาทปราก Prague Castle หรือ Pražský hrad เป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง สามารถมองเห็นตัวปราสาทได้จากมุมต่างๆ ของเมือง จากนั้นนำท่านชมสิ่งที่ดึงดูดและสะดุดตาที่สำคัญๆ คือ มหาวิหารเซนต์วิตัส St. Vitus cathedral มหาวิหารหลังนี้สร้างมาตั้งแต่สมัยศัตวรรษที่ 14 เป็นการสร้างแบบสถาปัตยกรรมโกธีก (Gothic) ที่ได้ตกแต่งประดับประดาไปด้วยหัวสัตว์ประหลาดมากมายที่ทำด้วยหินตั้งอยู่บนหลังคาและปากท่อรางน้ำฝน ส่วนภายในของมหาวิหารจะได้พบกับความงามอันประณีตของสถานที่ฝังศพต่างๆ สามารถปีนไต่ขึ้นไปบนยอดสุดของหอระฆังได้ ซึ่งเป็นจุดที่สูงสุดของปราสาท และรอบๆปราสาทยังมีสิ่งที่น่าสนใจ จากนั้นนำท่านเดินผ่านส่วนของพระราชวังเก่ามีการสร้างหลังคาที่มีรูปทรงแหลมสูงแบบสถาปัตยกรรมโกธีกตอนปลาย หรือเรียกอีกอย่างว่าสถาปัตยกรรมโกธีกวิจิตร (late Gothic) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปราสาทที่ตั้งตระหง่านอยู่ทุกวันนี้

นำท่านเดินต่อสู่เบื้องล่าง เลาะถนนริมแมน่น้ำวัตตาวา ชม สะพานชาร์ล Charles Bridge สะพานเก่าแก่สัญลักษณ์ของกรุงปรากที่ทอดตัวข้ามแม่น้ำวัตตาวา ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของประเทศ เป็นสิ่งก่อสร้างจากสมัยของพระเจ้าชาร์ลที่ 4 เป็นสะพานเก่าแก่ที่มีความสวยงามที่สุดในยุโรป โดยสองข้างสะพานจะประดับตกแต่งด้วยรูปปั้นนักบุญที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวเช็ค 30 องค์ และเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองที่เรียงรายอยู่บนตลอดแนว จากนั้นนำท่านเดินต่อสู่ย่าน จตุรัสเมืองเก่า OLD TOWN SQUARE นำท่านบันทึกภาพกับ ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า Old Town Hall ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1338 มีจุดเด่นคือ นาฬิกาดาราศาสตร์ Astronomical clock สร้างขึ้นกว่า 500 ปีมาแล้ว ทุกชั่วโมง กลไกจะทำงานให้ตุ๊กตาอัครสาวก 12 คนของพระเยซู ผลัดกันโผล่หน้าออกมาจากหน้าต่าง ทักทายฝูงมหาชนแน่นขนัดที่คอยชมอยู่เบื้องล่าง เมื่อ 500 กว่าปีก่อน เทคโนโลยีเหล่านี้ยังไม่พัฒนาเหมือนในปัจจุบัน การใช้กลไกที่ซับซ้อนพอที่จะทำให้ตุ๊กตาหมุนออกมาทักทายผู้คนได้ขนาดนี้ถือว่าเป็นความสำเร็จอย่างมาก ตำนานกล่าวว่าหลังจากนาฬิกานี้สร้างเสร็จ คนประดิษฐ์กลไกนาฬิกาชิ้นนี้ถูกควักลูกตาให้ตาบอด เพื่อที่จะไม่สามารถมองเห็นแล้วจะสามารถไปสร้างนาฬิกาแบบเดียวกันนี้ที่อื่น ก่อนมีเวลาอิสระให้ท่านได้เดินเล่น บันทึกภาพ หรือ เลือกเดินซื้อสินค้าตามอัธยาศัย ณ ย่านเมืองเก่า

*** รายการตลอดทั้งบ่ายวันนี้ จะต้องเดินทั้งหมด เนื่องจากปรากเป็นเมืองมรดกโลก UNESCO ไม่อนุญาตให้รถใหญ่เข้า จึงรบกวนทุกท่านใส่รองเท้าที่สามารถเดินสบายๆ ไม่แนะนำรองเท้ามีส้น และควรฟิตร่างกายไว้ให้พร้อม ระยะทางเดินประมาณ 3 กม. แต่เราเดินแบบสบายๆค่อยๆไป เดินเก็บภาพบรรยากาศสวยกันแบบเต็มที่ จนท่านลืมเหนื่อยแน่นอน ***

ค่ำ                   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร   

พักที่                Corinthin Prague  **** 4ดาว

 วันอังคารที่ 14สิงหาคม 61

เชสกี้คลุมลอฟ UNESCO – ชมวิวบนปราสาท – จตุรัสเมืองเก่า – ลินซ์

เช้า                รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านสู่เมือง เชสกี้ ครุมลอฟ (ระยะทาง 170 ก.ม./ 2.30 ชม.) เมืองประวัติศาสตร์ที่สวยงามราวกับภาพวาดซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของโบฮีเมีย แต่งแต้มด้วยความโรแมนติก เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากเป็นอันดับที่สองของสาธารณรัฐเช็ก และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ.1992 ด้วยจำนวนอาคารเก่าแก่กว่า 300 อาคารที่ได้รับการทะนุบำรุงเป็นอย่างดี

นำท่าน เดินชมความน่ารักของเมือง สถานที่ท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้ เมืองนี้พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดปี เดินเที่ยวชมเมืองโดยรอบ ชมจตุรัสกลางเมืองที่สวยงาม ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองอันเก่าแก่และยังคงใช้อยู่จนกระทั่งปัจจุบัน จากนั้นนำท่านขึ้นสู่ จุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมือง บริเวณ ลาน Courtyard ของปราสาทครุมลอฟ ให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกภายนอกของปราสาทที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากปราสาทปราก มีห้องต่างๆ ถึง 40 ห้องลานปราสาท 5 แห่งและอุทยานอีก 1 แห่งที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา ชมทัศนียภาพของตัวเมืองจากลานหน้าอุทยาน ภาพที่ท่านเห็นคือบ้านเรือนหลังเล็กหลังน้อยหลังคาสีส้มเรียงรายกันเป็นกระจุกๆ เหมือนบ้านตุ๊กตาที่สวยงามยิ่งนัก จากนั้นมีเวลา อิสระให้ท่านได้เดินเล่นชมเมือง ผ่อนคลายสบายๆกับเมืองสุดน่ารักแห่งนี้ ท่านสามารถเดินเลือกซื้อของหัตถกรรมในเมืองอย่างผ้าลูกไม้ งานแกะสลักเล็กๆ หรือเครื่องประดับอย่าง อัมพัน Amber ซึ่งมีขายอยู่มากทางแถบนี้

กลางวัน           รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่เมือง ลินซ์ LINZ (ระยะทาง 71 กม./ 1.15 ชม.) เมืองซึ่งตั้งอยู่บนสองฝั่งของแม่น้ำดานูบ ครึ่งทางระหว่างกรุงเวียนนากับซาลสบวร์ก เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่มีบทบาทช่วงสั้นๆ ในสมัยศตวรรษที่ 15 อดีตเมืองหลวงของอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และอดีตเคยเป็นค่ายนาซีในสมัยการปกครองของเยอรมัน โดย อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ นับเป็นเมืองที่แฝงไว้ด้วยความสวยงามของศิลปะและสถาปัตยกรรมสไตล์บาโร๊คและร็อคโคโค

ค่ำ                    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักที่                Courtyard By Marriott Linz  **** 4ดาว

วันพุธที่ 15สิงหาคม 61

หมู่บ้านฮัลสตัทท์ Unesco – เบิร์ชเทสการ์เด้น – ทะเลสาบโคนิก – ล่องเรือทะเลสาบกษัตริย์ – ฟุสเซ่น

เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่เมือง ฮัลสตัทท์ Hallstatt (ระยะทาง 210 ก.ม./ 2.50 ชม.) เมืองมรดกโลกเก่าแก่อายุกว่า 4,000 ปี ซึ่งมีทิวทัศน์ที่สวยงามยิ่งและดึงดูดนักเดินทางมากมายให้มายังเมืองนี้ ตัวหมู่บ้านฮัลสตัทท์เป็นเมืองเล็กๆริมทะเลสาบ มีประชากรอาศัยไม่ถึง 1,000 คน มีฉากหลังเป็นภูเขาสูงชัน บ้านเรือนในเมืองนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่แคบๆ ริมทะเลสาบ Halls tatter Sea จึงต้องสร้างลดหลั่นเป็นชั้นๆตามแนวเขา นำท่านเดินเล่นเที่ยวชมเมือง ฮัลสตัทและบรรยากาศริมทะเลสาบ Halls tatter Sea จากนั้น อิสระเวลาให้แก่ท่าน เพื่อเก็บภาพความสวยงาม และบรรยากาศอันสุดแสนโรแมนติกของเมืองฮัลสตรัทแห่งนี้อย่างเต็มอิ่มแน่นอน   หมู่บ้านแห่งนี้มีมุมสวยๆเยอะมาก นอกจากมุม “มหาชน” ที่นักท่องเที่ยวเดินไปถ่ายรูปกัน แนะนำ !! ให้ท่านลองเดินหาขึ้นไปทางบริเวณด้านบนของหมู่บ้าน แล้วท่านจะได้เห็นวิวที่แตกต่าง เดินไม่ยาก เข้าตามซอย มีทั้งทางลาด และบันได ขอความกรุณาท่านอย่าส่งเสียงดังเวลาถ่ายรูป เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนชาวบ้านอาศัยอยู่

หมายเหตุ !!!    การเดินเข้าไปยังหมู่บ้านฮัลสตัทท์ ระยะทางเดินประมาณ 650 – 700 เมตร รถใหญ่ไม่สามารถเข้าได้ ต้องจอดที่จุดจอดรถด้านหน้าหมู่บ้านที่เดียว ต้องขออภัยในความไม่สะดวก แต่รับรองว่าท่านจะประทับใจกับความสวยของหมู่บ้านแห่งนี้อย่างใกล้ชิดแน่นอน

กลางวัน           รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินทางสู่เมือง เบิร์ชเทสการ์เด้น Berchtesgarden (ระยะทาง 71 ก.ม./ 1.15 ชม.) เมืองแห่ง ศูนย์กลางของเส้นทางการค้าขายพวกแรเกลือมาตั้งแต่ในสมัยอดีต นำท่าน ล่องเรือ ชมทะเลสาบโคนิกส์เซ่ KONIGSSEE LAKE หรือ ทะเลสาบกษัตริย์ Königssee เป็นทะเลสาบในหุบเขาของเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้เมืองเบิร์ชเทสการ์เด้น เป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงชัน นอกจากนั้นยังเป็นทะเลสาบที่ใสที่สุด สะอาดที่สุด และอยู่สูงที่สุดในประเทศเยอรมนี ด้วยเหตุนี้เองจึงอนุญาตให้เฉพาะเรือพายและเรือที่ใช้ไฟฟ้าเท่านั้น สามารถแล่นไปมาในทะเลสาบได้ อิสระท่านชมความงดงามของทิวทัศน์รอบๆทะเลสาบ โดยมีวิวของภูเขาเจนเนอร์ (JENNER MOUNTAIN) ภูเขาที่มีความสูงประมาณ 1,874 เมตร และ โบสถ์รูปทรงหัวหอม (St.Bartholomew) อันโด่งดัง จนได้เวลาสมควร นำท่านล่องเรือกลับสู่ฝั่งจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น Fussen (ระยะทาง 83 ก.ม./ 1.20 ชม.) เมืองสุดท้าย บนถนนสายโรแมนติก เมืองนี้เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เป็นที่ตั้งของปราสาทของกษัตริย์บาวาเรีย และยังแวดล้อมไปด้วยทะเลสาบน้อยใหญ่ และห่างจากชายแดนประเทศออสเตรีย Austria เพียงแค่ 5 กิโลเมตรเท่านั้นเมืองนี้มีชื่อเสียงตอนที่ริชาร์ด วากเนอร์ นักประพันธ์  นักดนตรีที่มีชื่อเสียงของเยอรมัน เข้าเฝ้าพระเจ้าลุควิกที่ 2 และเมืองนี้ปรากฎในภาพยนตร์เรื่อง The Great Escape อันโด่งดังที่พระเอกสตีฟ แมคควีน ขี่มอเตอร์ไซด์ไปทั่วเมืองนี้ด้วย เมืองสุดท้ายบนถนนสายโรแมนติก เคยมีความรุ่งเรืองใน อดีตตั้งแต่ยุคโรมัน ที่ใช้เมืองนี้เป็นจุดแวะพักขนถ่ายสินค้าและซื้อขายเกลือมาแต่โบราณ ชมเมืองที่แสนจะน่ารัก มีร้านอาหาร, โรงแรมที่พักตลอดจนร้านขายของที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ค่ำ                    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักที่                Luitpoldpark Hotel   **** 4ดาว 

วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม 61

ชวานเกา – ปราสาทนอยชวานสไตน์ – มิวนิค – จตุรัสมาเรียน – ช้อปปิ้ง

 เช้า                  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นเดินทางสู่ หมู่บ้านชวานสเกา (ระยะทาง 15 นาที) นำท่าน ขึ้นชม ปราสาทนอยชวานสไตน์ ของกษัตริย์ลุดวิคที่สองแห่งบาวาเรีย ทรงได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างปราสาท จากความหลงใหลในการแสดงอุปรากร ต่อมาปราสาทนอยชวานสไตน์ ก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบฉากบัลเล่ต์และละครอีกนับร้อย ๆ เรื่อง ปราสาทนี้เป็นเหมือนปราสาทในเทพนิยายที่มีมนต์เสน่ห์ที่สุดในโลกและเป็นแบบจำลองให้วอลท์ ดิสนีย์ นำไปสร้างเป็นปราสาทของเจ้าหญิงในภาพยนตร์เรื่องเจ้าหญิงนิทรา ปราสาทเทพนิยายนอยชวานสไตน์ นี้ตั้งอยู่เหนือโกรกธารขรุขระของแม่น้ำพอลแล็กในเทือกเขาแอลป์ เป็นปราสาททรงเสน่ห์ที่มีมนต์ขลังที่สุดในโลก หอคอยสีงาช้างของปราสาทดูลอยเด่นอยู่กลางป่าสนเขียวขจี กำเนิดขึ้นจากความฝันของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 เพียงพระองค์เดียว ผู้ทรงบันดาลให้เป็นจริงด้วยพระราชทรัพย์อันมหาศาล นำท่านสู่ จุดชมวิวถ่ายรูปปราสาททั้งหลัง แล้วเดินชมความร่มรื่นของแนวป่าสนสู่ตัวปราสาท แล้ว นำเข้าชมความวิจิตรพิศดารของตัวปราสาทภายใน ที่พระองค์ทุ่มเทพระราชทรัพย์เพื่อเนรมิตฝันให้เป็นจริง ชมผลงานชิ้นเอกของจิตรกร ประติมากร และช่างแกะไม้ฝีมือเยี่ยม นำชมห้องบัลลังก์ ห้องบรรทม ห้องทรงดนตรีโอเปร่า ถ้ำแห่งวีนัส ท้องพระโรง และห้องครัวที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น จากนั้นนำท่านกลับลงสู่เชิงเขา

หมายเหตุ         รถ Shuttle Bus ที่วิ่งรับ-ส่งนักท่องเที่ยวขึ้นลงปราสาท อาจมีหยุดให้บริการในช่วงฤดูหนาวหรือวันหิมะตก หากรถบัสไม่วิ่ง จะเปลี่ยนพาท่านขึ้นโดย นั่งรถม้า (นั่งได้ 8-12 คน และรวมอยู่ในค่าบริการ เฉพาะขาขึ้น) ท่านอาจจำเป็นต้องเดินขึ้นปราสาท ในกรณีที่คิวรถม้าค่อนข้างยาวซึ่งอาจมีผลทำให้ไม่ทันรอบเวลาเข้าปราสาท หากท่านไหนสละสิทธิ์ไม่เข้าปราสาท ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินทุกรณี (ระยะทางเดินขึ้นเขาใช้เวลาเดินประมาณ 25 – 30 นาที)

กลางวัน           รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

 จากนั้นเดินทางสู่ เมืองมิวนิค MUNICH (ระยะทาง 127 ก.ม./ 2 ชม.) นครหลวงแห่งแคว้นบาวาเรีย เมืองที่มีอาคารบ้านเรือนที่สวยงาม ต้นกำเนิดแห่งงานเทศกาลอ็อกโทเบอร์เฟสต์ เทศกาลดื่มเบียร์จัดขึ้นทุกปีช่วงปลายเดือนกันยายนและต้นเดือนตุลาคม มีคนกว่า 6 ล้านคนดื่มเบียร์ราว 5 ล้านลิตร นำท่านผ่านชมย่านสำคัญๆ บน ถนนแมกซิมิเลี่ยน ที่ตั้งของโอเปร่าเฮ้าส์ จัตุรัสมาเรียน–พิพิธภัณฑ์เรสซิเด้นท์ นำท่านเดินเข้า สู่ จตุรัสมาเรียน MARIEN PLATZ ย่านเมืองเก่าที่มีสถาปัตยกรรมอันเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของมิวนิค เช่น ศาลาว่าการเก่าในรูปแบบศิลปะโกธิค สร้างเมื่อปี ค.ศ.1867-1908 ซึ่งมีหอระฆังอันมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ตั้งอยู่ตัวหอคอย มีความสูงถึง 278 ฟุต, หอคอยของโบสถ์แม่พระที่มีรูปแบบคล้ายหัวหอมใหญ่ ก่อนมีเวลา อิสระให้ท่านช้อปปิ้ง ย่านที่มีร้านค้าแบรนด์เนมที่มีชื่อเสียงโด่งดังของยุโรป อาทิ หลุยส์วิตตอง กุซชี่ ปราดา ชาแนล นาฬิกา PATEK PHILIPPE, ROLEX, กระเป๋าเดินทางRimowa มีดคนคู่ ฯลฯ หรือท่านไหนชอบสินค้าหลากหลาย ก็มีทั้งห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาเก็ตราคาถูก

ค่ำ                    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร 

พักที่                Four Points By Sheraton **** 4ดาว

วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม 61

สนามบิน – มิวนิค – กรุงเทพฯ

 เช้า                  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

09.00 น.          เดินทางสู่สนามบิน มิวนิค เผื่อเวลาให้ท่านกระทำภาษีคืน TAX REFUND (ระยะทาง 38 ก.ม./ 40 นาที)

14.25 น.          ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ TG 925

วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม 61

กรุงเทพฯ

06.05 น.          เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารชั้น 2 โดยสวัสดิภาพและมีความสุข…

อัตราค่าบริการ

ออสเตรีย สโลวัก เชค เยอรมัน 8 วัน WE-EU02A (TG)

วันเดินทาง ราคาผู้ใหญ่

พักห้อง

ผู้ใหญ่ 2 ท่าน

*ราคาเด็ก

พักห้อง

1 เด็ก + 1 ผู้ใหญ่

*ราคาเด็ก

1 เด็ก + 2 ผู้ใหญ่

(เสริมเตียง)

**ราคาเด็ก

1 เด็ก + 2 ผู้ใหญ่

(ไม่เสริมเตียง)

พักเดี่ยวเพิ่ม
11 – 18 ส.ค. 2561 77,900 77,900 75,900 74,900 10,900

หมายเหตุ  :  เด็กต้องมีอายุ 2-12 ปี บริบูรณ์  //  เด็กอายุ 5-12 ปี โรงแรมในยุโรปจะบังคับเสริมเตียง

อัตรานี้รวม

  • ตั๋วเครื่องบินไป – กลับ (ชั้น ECONOMY) ตามเส้นทางและสายการบินที่รายการระบุไว้
  • ภาษีสนามบินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและปลายทางต่างประเทศ
  • ค่าที่พัก พร้อมอาหารเช้า (ห้องละ 2 ท่าน) ในระดับดาวมาตรฐานตามโรงแรมที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า หากวันเข้าพักตรงกับช่วงเทศกาลหรืองานจัดแสดงสินค้า อาจมีการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมือง แต่จะคำนึงถึงเส้นทางและความสำคัญของลูกค้าเป็นหลัก
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามที่ระบุในรายการ
  • ค่ารถโค้ชปรับอากาศ ขนาด 49 ที่นั่ง นำเที่ยวตามสถานที่ระบุในรายการ
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท ซึ่งเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี และผู้ใหญ่อายุเกิน 75 ปีได้รับความคุ้มครองเพียง 50% ของวงเงินประกัน
  • หัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์ อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าเชงเก้น ระยะเวลาตามวันที่ระบุในรายการ
  • ค่าธรรมเนียมทิป  คนขับรถต่างประเทศ

อัตรานี้ไม่รวม 

  • ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 % และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % กรณีออกใบกำกับภาษี
  • ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง
  • ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งและภาษีตั๋วทุกชนิดเพิ่ม หากสายการบินปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ / ค่าซักรีด / ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋า ขอเรียนให้ท่านทราบว่า กรณีไม่มีบริการยกกระเป๋า ท่านผู้เดินทางทุกท่านจะต้องดูแลทรัพย์สินของท่านด้วยตนเอง
  • ค่าธรรมเนียมทิป หัวหน้าทัวร์ ปกติท่านละ 20 – 25 ยูโร
  • ค่าปรับน้ำหนักกระเป๋าที่เกินกว่าที่ทางสายการบินกำหนด

เงื่อนไขการจองทัวร์

  • กรุณาชำระมัดจำท่านละ 40,000 บาท ภายใน 2 วัน จากวันจอง โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
  • ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน
  • เมื่อได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ว่าให้จัดเตรียมเอกสารขอวีซ่าได้ ท่านสามารถจัดเตรียมเอกสารขอวีซ่าได้ทันที
  • หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
  • การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะ และยื่นรายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่
  • หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

เงื่อนไขการชำระเงินส่วนที่เหลือ

  • ส่วนที่เหลือชำระก่อนเดินทาง 20 วัน หรือเมื่อทางสายการบินมีการเรียกออกตั๋ว โดยทางบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าก่อนจะมีการเรียกเก็บเงิน
  • หากท่านไม่ผ่านการอนุมัติวีซ่า ทางบริษัทฯ ขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ช่น ค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า / ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน / ค่าตั๋วเครื่องบิน (กรณีออกตั๋วเครื่องบินแล้ว) ทางบริษัทฯ จะทำการ Refund กับทางสายการบิน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3- 6 เดือนเป็นอย่างน้อย และขึ้นอยู่กับ Condition ของทางสายการบิน / ค่าส่วนต่างในกรณีที่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ครบตามจำนวน

เงื่อนไขการยกเลิกและการปรับเงินค่าบริการ

  • ยกเลิกหลังการจอง ปรับเงินทันที 1,000 บาท (คิดเป็นค่าบริการของพนักงาน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30-45 วัน หักค่ามัดจำ 50% ของเงินมัดจำ + ค่าวีซ่า
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 15-30 วัน หักค่าใช้จ่าย 100% ของเงินมัดจำ
  • ยกเลิกการเดินทาง 1-15 วัน หักค่าใช้จ่าย 100% ของราคาทัวร์
  • หากมีการออกตั๋วเครื่องบิน หรือจองโรงแรมไปแล้ว ทางบริษัทฯ จะคิดค่าบริการตามจริง
  • กรณีเจ็บป่วย จนไม่สามารถเดินทางได้ ท่านต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง บริษัทฯ จะส่งเรื่องขอ Refund เฉพาะค่าตั๋วเครื่องบินกับทางสายการบิน โดยดุลยพินิจขึ้นอยู่กับทางสายการบินเท่านั้น หรือ หากท่านต้องการเลื่อนการเดินทางของท่านไปยังคณะต่อไป ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ที่ไม่สามารถเรียกคืนได้ จากคณะทัวร์เดิมที่ท่านไม่ได้เดินทาง คือ ค่าธรรมเนียมในการมัดจำตั๋ว และค่าธรรมเนียมวีซ่าตามที่สถานทูตฯ เรียกเก็บ
  • กรณียื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่าจากทางสถานทูต (วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าทัวร์ หรือมัดจำมาแล้ว ทางบริษัทฯ ขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า / ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน / ค่าตั๋วเครื่องบิน (กรณีออกตั๋วเครื่องบินแล้ว) ทางบริษัทฯ จะทำการ Refund กับทางสายการบิน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3- 6 เดือนเป็นอย่างน้อย และขึ้นอยู่กับ Condition ของทางสายการบิน / ค่าส่วนต่างในกรณีที่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ครบตามจำนวน
  • กรณีวีซ่าผ่านแล้ว แจ้งยกเลิกก่อน หรือหลังออกตั๋วโดยสาร บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด

 

ติดต่อจองทัวร์หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

บริษัท บีคอนบอย ทราเวล จำกัด (ใบอนุญาตเลขที่ 11/09262)

15/2 ซอยสุคนธสวัสดิ์ 3 แยก 1 แขวง/ เขต ลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

www.beaconboytravel.com / Facebook: Beaconboy Travel / Line@:@beaconboytravel
อีเมล์: info@beaconboytravel.com เบอร์โทรศัพท์: 02-048-4757 / 091-7784757