East Europe & Upper Bavaria

บินตรงสุดสบายด้วยสายการบินไทย TG  (เข้าเวียนนา – ออกมิวนิก)

***ครบทุกไฮไลท์ยุโรปตะวันออกและเยอรมันอัพเปอร์บาวาเรีย***

**เดินทาง 12 – 21 เม.ย. 62**

เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก

เติมเต็มเรื่องราวของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมผ่านโปรแกรมทัวร์คุณภาพ

“บูดาเปสก์, เวียนนา, ปราก, เชสกี้ ครุมลอฟ, เซนต์วูฟกัง,  ฮัลสตัทซ์, ซาลซ์บวร์ก, อินซ์บรูกซ์,

มิทเทนวาร์ด, การ์มิช , โอเบอร์อัมเมอร์เกา, ฟุตเซน, ชวานเกา, ช้อปปิ้งปิดท้ายที่กรุงมิวนิค

“พิเศษ!!! Morning Fun Run ยามเช้า ณ เมืองคลาสสิกยุโรปตะวันออก”

คลิก>>>โหลดโปรแกรม… 

กำหนดการเดินทาง

 วันศุกร์ที่ 12  เมษายน 2562  (1)   

กรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ

22:30 น.            คณะเดินทาง พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์ D สายการบินการบินไทย พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกเช็คอินโหลดกระเป๋าสัมภาระ

วันเสาร์ที่ 13 เมษายน 2562  (2)      

เวียนนา (ออสเตรีย)  –  กรุงบูดาเปสก์ (ฮังการี) – ชมทุกไฮไลท์สำคัญกรุงบูดาเปสก์

01.20 น.            ออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 936

07.15 น.            เดินทางถึงสนามบินนานาชาติชเวชาท กรุงเวียนนา หลังจากผ่านขั้นตอนการตรวจหนังสือเดินทางและรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่กรุงบูดาเปสก์ ประเทศฮังการี เยี่ยมชมทุกจุดสำคัญของกรุงบูดาเปสก์ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบ แม่น้ำสายสำคัญที่มีความยาวที่สุดในสหภาพยุโรป ในอดีตเมืองแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งของแม่น้ำ ฝั่งซ้ายคือเมืองบูดาและขวาคือเปสก์ ก่อนจะรวมเป็นเมืองเดียวกันใน ค.ศ.1872 ปัจจุบันบริเวณโค้งน้ำอาคารรัฐสภากรุงบูดาเปสก์ได้รับการยกย่องว่าเป็นโค้งน้ำที่สวยที่สุดของแม่น้ำดานูบทั้งสาย จนได้รับฉายาให้เป็น “ไข่มุขแห่งแม่น้ำดานูบ” นำท่านชมฝั่งซ้ายของแม่น้ำดานูบหรือในอดีตคือฝั่งบุดดา มีลักษณะเป็นเนินเขาริมแม่น้ำที่มีชื่อว่า “เกลเลิท” (Gellert Hill) ที่ตั้งชื่อตามตำนานนักบุญเกลเลท หรือ St.Gerard ที่มาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในช่วงศตวรรษที่ 10 แต่ถูกชาวบ้านสังหารด้วยการจับโยนลงแม่น้ำดานูบ

จุดยอดของเนินเขาแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ “ซิททาเดลลา” (Citadella) ในอดีตเป็นป้อมปราการจุดยุทธศาสตร์ทางการทหารที่สำคัญของทหารจักรวรรดิออสเตรีย ก่อนที่ฮังการีจะทำการปฏิวัติใน ค.ศ.1848 แล้วยกฐานะขึ้นมาเท่าเทียมเป็นรวมกันเป็นจักรวรรดิ “ออสเตรีย-ฮังการี” ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ “อนุสาวรีย์เสรีภาพ” (Liberty Statue) ที่มีรูปลักษณ์เป็นคนยกมือถือใบปาล์มอยู่เหนือศีรษะสร้างขึ้นมาจากโลหะสัมฤทธิ์ มีความสูงถึง 26 เมตร สร้างขึ้นในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 มีการสลักข้อความเพื่อรำลึกถึงกองทัพแดงรัสเซียที่มาช่วยขับไล่กองทัพอักษะนาซีไว้ได้ แต่เมื่อคอมมิวนิสต์ล่มสลายในช่วงปี ค.ศ. 1989 ก็ได้มีการเปลี่ยนข้อความที่สลักไว้เป็นเพื่อรำลึกถึงอิสรภาพและเสรีภาพของชาวฮังกาเรียน

นำท่านเดินทางสู่เนินเขาอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า “เนินเขาปราสาท” (Castle Hill) เยี่ยมชมสถานที่มากมายด้วยสถาปัตยกรรมและคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เป็นที่ตั้งของ “ป้อมชาวประมง” (Fisherman’s Bastion) ที่มีอยู่ทั้งหมด 7 ป้อม แสดงถึงตระกูลชาวแมกยาร์ทั้ง 7 ตระกูลที่มาตั้งรกรากถิ่นฐานในพื้นที่นี้ตั้งแต่ในอดีต ในบางครั้งก็สื่อถึงคุณงามความดีของชุมชมชาวประมงในยุคกลางที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ป้องกันข้าศึกจากทางตะวันออกไม่ให้ผ่านไปได้ , โบสถ์ “แมทธีอัส” (Matthias Church) โบสถ์ที่ใช้ทำพิธีสำคัญยิ่งของชาวฮังกาเรียน ใช้ในพิธีเถลิงถวัลยราชสมบัติกษัตริย์ของฮังการีเกือบทุกพระองค์ และด้านหน้ามีพระบรมรูปทรงม้าของกษัตริย์สตีเฟ่นที่ 1 กษัตริย์พระองค์แรกของฮังการีที่นับถือศาสนาคริสต์ มีเวลาให้ท่านอิสระเก็บภาพประทับใจและชมความสวยงามของวิวแม่น้ำดานูบด้านล่างเนินเขาปราสาทแห่งนี้

กลางวัน             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

บ่าย                   นำท่านเยี่ยมชมเมือง “เปสก์” ในอดีต เมืองฝั่งขวาของแม่น้ำดานูบ เยี่ยมชม “จตุรัสวีรบุรุษ” (Heroes’ Square) สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1896 เพื่อรำลึกถึงการตั้งถิ่นฐานครบรอบ 1,000 ปี ของชาวแมกยาร์ ยอดเสาคอลัมน์เป็นรูปปั้นของอัครทูตรสวรรค์ อาร์กแองเจิลกราเบรียลมือขวาถือมหามงกุฎของกษัตริย์สตีเฟ่นผู้นำศาสนาคริสต์มาสู่ชาวฮํงกาเรียน มือซ้ายถือไม้กางเขนเชิดชูศาสนา ด้านล่างเป็นรูปปั้นของเจ็ดผู้นำชนเผ่าของชาวแมกยาร์ จากนั้นเดินทางสู่ใจกลางย่านธุรกิจการค้า เต็มไปด้วยสีสันและมีชีวิตชีวาของคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว “ย่านถนนวาซี” (Vaci Utca) นำท่านลงใต้ดินชมสถานีรถไฟ M1 หรือ “Millennium Underground Railway” ที่ยังคงใช้ขบวนรถไฟรุ่นเก่าสุดคลาสสิก และถือได้ว่าฮํงการีมีรถไฟใต้ดินเก่าแก่ที่สุดใน “ภาคพื้นทวีปยุโรป” จากนั้นมีเวลาให้ท่านอิสระเลือกชมสินค้าของฝากท้องถิ่นที่มีจำหน่ายเยอะแยะมากมาย ณ ถนนวาซี่แห่งนี้

เมื่อได้เวลาสมควร นำท่านล่องเรือชมความสวยงามของแม่น้ำดานูบและอาคารสถานที่สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ รอบแม่น้ำดานูบ ไฮไลท์สำคัญโค้งน้ำที่สวยที่สุดของแม่น้ำดานูบ ที่ตั้งของอาคารรัฐสภากรุงบูดาเปสก์ที่ได้ชื่อว่าเป็นอาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดในยุโรป ขนาดยิ่งใหญ่อลังการซึ่งใช้อิฐในการก่อสร้างราว 40 ล้านก้อน , กลุ่มอาคารพระราชวังหลวง “Royal Palace” บนเนินเขาปราสาท และสะพานต่าง ๆ ที่เปรียบเหมือนโซ่ยึดบูดากับเปสก์เข้าด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสะพาน “เชนน์บริดจ์” (Chain Bridge) อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของกรุงบูดาเปสก์

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

เข้าสู่โรงแรมที่พัก ณ โรงแรมที่พัก  Courtyard by Marriott Budapest City Centerหรือ เทียบเท่า

วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน 2562  (3)   

กรุงบูดาเปสก์   –  เมืองเก่ากรุงเวียนนา   –   พระราชวังเชินบรุนน์    

“Budapest” Morning Fun Run จ้อกกิ้งยามเช้าริมแม่น้ำดานูบ บูดาเปสก์ (ประมาณ 5-6 ก.ม.)

เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนกลับเข้าสู่ประเทศออสเตรีย อดีตจักรวรรดิผู้ปกครองดินแดนยุโรปทั่วทั้งแผ่นดิน ร่ำรวยด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแต่ปัจจุบันขับเคลื่อนประเทศด้วยแนวคิดทันสมัยเข้ากับยุคใหม่ มีนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดในโลก (เซบาสเตียน คูร์ซ, 2017) เป็นเมืองหลวงแห่งดนตรีคลาสสิก ต้นกำเนิดของขนมปังครัวซองอาหารเช้าของทุกยุคทุกสมัย หรือแม้แต่คนเหล็กอย่าง “อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์” ก็เกิด ณ ประเทศออสเตรียแห่งนี้

กลางวัน             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

บ่าย                   นำท่านเข้าชมพระราชวังเชินบรุนน์ (Schonbrunn Palace) พระราชวัง “ฤดูร้อน” สีเหลืองนวลสุดหรูหรายิ่งใหญ่อลังการที่มีความหมายว่า “น้ำพุที่สวยงาม” เริ่มก่อสร้างในยุคแรกช่วงกลางศตวรรษที่ 16 จุดประสงค์สำหรับกีฬาการล่าสัตว์ของกษัตริย์และเหล่าขุนนางในฤดูร้อน มาเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1749 ในยุคของจักรพรรดินีผู้ยิ่งใหญ่ที่ได้ถูกเปรียบเปรยว่าเป็น “แม่ยายยุโรป”  จักรพรรดินี มาเรีย เทเรซ่า

นอกจากตัวอาคารพระราชวังที่มีจำนวนห้องมากมายถึง 1,441 ห้องแล้ว ด้านหลังยังมีประตูชัยราชวัลลภ “โกลเรียตต์” (Gloriette) ตั้งอยู่ในสวนบนเนินด้านหลัง สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะที่สู้รบกับจักรวรรดิปรัสเซียในช่วง ค.ศ.1757 และสดุดีการครองราชบัลลังก์ของจักรพรรดิโจเซฟที่ 2 (โอรสพระองค์แรกของมาเรีย เทเรซ่า) และจักรพรรดินีมาเรีย เทเรซ่า

จากนั้นนำท่านเยี่ยมชมใจกลางเมืองเก่ากรุงเวียนนา ชมสวนสตัดต์ปาร์ค พื้นที่สีเขียวที่ใหญ่ที่สุด ปอดฟอกอากาศบริสุทธิ์ของกรุงเวียนนา มีรูปปั้นสีทองอร่ามของคีตกวีชื่อดัง โจฮัน สเตราซ์ จูเนียร์ ราชาเพลงวอลซ์ เจ้าของบทเพลง เดอะ บิวตี้ฟูล บลูดานูบ แวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึก จากนั้นนำพาท่านเดินเข้าสู่ใจกลางเมืองเก่า จตุรัสสเตฟานที่ตั้งของมหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น ก่อสร้างด้วยศิลปะสไตล์กอธิคขนาดใหญ่ ศูนย์รวมจิตใจชาวเวียนนา จากนั้นเยี่ยมชมแวะถ่ายรูปทุกจุดสำคัญย่านถนนคาร์สเนอร์สตรีท ย่านช้อปปิ้งและแวะเยี่ยมชมโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ สไตล์บาร็อคหรูหรา , ชมด้านนอกพระราชวังฮับเบิร์กและปิดท้ายด้วยจตุรัสมาเรียเทเรซ่า

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

เข้าสู่โรงแรมที่พัก ณ โรงแรมที่พักกรุงเวียนนา

วันจันทร์ที่ 15  เมษายน 2562  (4) 

เวียนนา  –  กรุงปราก (เช็ก) – ครบทุกไฮไลท์สำคัญกรุงปราก

เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ “กรุงปราก” สาธารณรัฐเชก ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกลงความเห็นว่าเป็นเมืองเก่าที่คลาสสิกที่สุดในยุโรปตะวันออก นำท่านเยี่ยมชมทุกสถานที่สำคัญของกรุงปราก เมืองหลวงของสาธารณรัฐเชกในปัจจุบัน ในยุคศตวรรษที่ 14 เปรียบได้ว่ากรุงปรากเป็นเมืองหลวงของยุโรป ภายใต้การปกครองของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 4 (Charles IV) ปกครองจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และอาณาจักรโบฮีเมีย พระปรีชาสามารถของพระองค์ทำให้กรุงปรากพัฒนาจนถึงขีดสุดในทุกด้าน ในยุคปัจจุบันกรุงปรากเป็นเมืองสวยงามสุดคลาสสิกไม่เป็นสองรองใคร สมญาเมืองแห่งปราสาทร้อยยอด หรือกรุงโรมแห่งอุดรทิศ ล้วนเป็นการสรรเสริญความสวยงามของกรุงปรากทั้งสิ้น

กลางวัน             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

บ่าย                   นำพาท่านเยี่ยมชมคือ “ปราสาทปราก” (Prague Castle) มี “มหาวิหารเซนต์วิตุส” (St.Vitus Cathedral) ตั้งอยู่โดดเด่นดูมีมนต์ขลังอลังการ ก่อสร้างครั้งแรกด้วยศิลปะแบบโรมาเนสก์ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 โดยกษัตริย์เวนเชสซลาสที่ 1 ต่อจากนั้นก็มีการก่อสร้างพัฒนาเรื่อยมา จนถึงศตวรรษที่ 14 ยุคของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 4 ก็ได้มีการก่อสร้างเพิ่มเติมครั้งใหญ่ด้วยศิลปะแบบโกธิค (Gothic) และยุคถัดมาก็แบบเรเนอซองส์ รูปแบบปรับตามความนิยมของยุคสมัย กว่ามหาวิหารแห่งนี้จะเสร็จสมบูรณ์ก็ต้องรอจนถึงศตวรรษที่ 20 เรียกได้ว่าใช้เวลาก่อสร้างจนเสร็จสิ้นก็ใช้เวลากว่าพันปีเลยทีเดียว

จากนั้นนำท่านเยี่ยมชมพระราชวังหลวงเก่า (Old Royal palace) ที่ปัจจุบันใช้ประกอบพิธีสำคัญการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศ ในอดีตสถานที่นี้เคยเกิดเหตุการณ์สำคัญในช่วงการปฏิวัติการนับถือศาสนาคริสต์ ผู้นับถือโปเตสแตนส์บุกเข้ามาจับขุนนางนักบวชคาทอลิกโยนออกนอกหน้าต่างพระราชวัง จนเป็นหนึ่งสาเหตุให้เกิดสงครามปฎิวัติศาสนาของชาวคริสต์ยาวนานถึง 30 ปีทั่วทั้งยุโรป / เยี่ยมชมถนนช่างทำทอง (Golden Lane) เปรียบเทียบให้เห็นภาพเหมือนชุมชนหลังวังของไทย ยุคถัดมาเป็นที่อยู่ของช่างฝีมือแขนงต่าง ๆ ปัจจุบันแบ่งเป็นห้องหับขนาดย่อมน่ารัก จำหน่ายของที่ระลึกให้แก่นักท่องเที่ยว จากนั้นนำท่านออกจากเขตปราสาทปรากเดินสู่ “สะพานชาร์ลส์” (Charles Bridge) สะพานที่ไม่เคยปราศจากผู้คนมาเยี่ยมเยียน เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ต้องการมาสัมผัสความคลาสสิกโรแมนติกของสะพานแห่งนี้ ตัวสะพานมีความยาว 516 เมตร พาดข้ามแม่น้ำวัลตาวาทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างประสาทปรากและเมืองเก่าสำหรับคนเดินสัญจรเท่านั้น ตกแต่งประดับประดาด้วยรูปปั้นของนักบุญต่าง ๆ ที่มีมากถึง 30 รูป สะพานนี้เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ก่อสร้างในยุคของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 4 (แทนสะพานเก่าที่ชำรุดถูกน้ำท่วม) เพลิดเพลินกับการแสดงละเล่นต่าง ๆ ที่มาเปิดหมวกสร้างความบันเทิงให้กับผุ้สัญจรไปมา มีเวลาอิสระให้ท่านสัมผัสบรรยากาศและเก็บภาพที่ระลึกอย่างเต็มที่

นำท่านเยี่ยมชมย่านจัตุรัสเมืองเก่ากรุงปราก มีหลายสถานที่น่าสนใจเยี่ยมชมได้ทั้งวันไม่มีเบื่อหน่าย หากแต่จะเมื่อยล้าก็สามารถพักเบรก ณ ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มอย่าง Starbucks , Hard Rock Café หรือร้านท้องถิ่นอื่น ๆ ที่มีบริการมากมาย นำท่านชม “นาฬิกาดาราศาสตร์”  (Astronomical Clock) ที่ตั้งอยู่ ณ ศาลาว่าการเมืองหลังเก่า อีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของกรุงปรากที่มีอายุเก่าแก่กว่า 600 ปี ทุกต้นชั่วโมงจะเต็มไปด้วยผู้คนมายืนอยู่บนจตุรัสหน้านาฬิกาเพื่อรอชมการออกมาทักทายผู้คนของตุ๊กตาอัครสาวกทั้ง 12 พระองค์ของพระเยซู , ชมโบสถ์ติน (Tyn Church) ที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ที่จตุรัส , เข้าถึงวิถีชีวิตท้องถิ่นด้วยการเยี่ยมชมตลาดท้องถิ่น “ฮาเวล” (Havel’s Market) มีของพื้นเมืองให้เลือกชิมเลือกซื้อ หากใครชอบเลือกชมสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังก็มีถนน “ปารีสสกา” (Parizska) และห้างสรรพสินค้า Palladium ให้ท่านได้แวะเยี่ยมชม และถ้าอยากได้ของฝากท้องถิ่น เครื่องแก้วคริสตัลของเช็กก็มีคุณภาพดีไม่แพ้ใคร เพียงแต่ช่วงหลังทำการตลาดแพ้แบรนด์ดังจากออสเตรีย

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย

เข้าสู่โรงแรมที่พัก ณ Hotel Ambassador Zlata husa หรือ เทียบเท่า

วันอังคารที่ 16  เมษายน 2562  (5)

กรุงปราก  –  เชสกี้ ครุมลอฟ  –  ทะเลสาบเซนต์ วูฟกัง (ออสเตรีย)

“Prague” Morning Fun Run จ้อกกิ้งยามเช้าริมแม่น้ำวัลตาวา ปราก (ประมาณ 5-6 ก.ม.)

เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านออกเดินทางสู่เมือง “เชสกี้ ครุมลอฟ” (Cesky Krumlov) อีกหนึ่งเมืองมรดกโลกสุดคลาสสิก ที่ตั้งของปราสาทครุมลอฟ ปราสาทที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากปราสาทปราก ก่อสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 พัฒนาสร้างเพิ่มเติมมาเรื่อย ๆ ตามยุคสมัยการเปลี่ยนแปลงผู้ปกครองตระกูลโรเซนเบิร์ก เอกเกนเบิร์ก และชวาเชนเบิร์ก จากนั้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ถูกกองทัพนาซีอักษะลงมาปกครองยึดไว้ เมื่อจบสงครามเข้าสู่ยุดคอมมิวนิสต์ก็ไม่ได้มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยียน ดังนั้นทั้งตัวปราสาทและชุมชนเมืองเก่าถนน “ลาตราน” (Latran) ก็เปรียบได้ว่าถูกสตาฟไว้ไม่เปลี่ยนแปลงเป็นเวลาเกือบ 50 ปีก่อนคอมมิวนิสต์จะล่มสลายและประเทศเชกเปิดประเทศอีกครั้ง

นำท่านชมปราสาทครุมลอฟและระเบียงชมวิวจุดมหาชน ที่มีทัศนียภาพของครุมลอฟเมืองเก่าและโค้งน้ำที่สวยที่สุดของแม่น้ำวัลตาวา ก่อนที่จะนำชมย่านถนนคนเดินลาตรานครึกครื้นด้วยผู้คนมากมาย

กลางวัน             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

บ่าย                   นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศออสเตรีย บริเวณเขตพื้นที่ “Salzkammerkut” เยี่ยมชมและเข้าพัก ณ โรงแรมริมทะเลสาบเซนต์ วูฟกัง ทะเลสาบแห่งนี้มีความสวยงามไม่แพ้ทะเลสาบชื่อดังอย่างฮัลสตัทซ์ ส่วนมากนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยียนทะเลสาบแห่งนี้จะเป็นนักท่องเที่ยวท้องถิ่นชาวตะวันตก โอกาสดีที่จะนำพาทุกท่านเยี่ยมชมและเข้าพัก ณ โรงแรมริมทะเลสาบแห่งนี้แล้วท่านจะพบว่าทะเลสาบแห่งนี้สวยงามไม่เป็นแพ้ทะเลสาบฮัลสตัทซ์อย่างแน่นอน

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น /

เข้าสู่โรงแรมที่พัก ณ Hotel Im Weissen Rössl หรือ เทียบเท่า

วันพุธที่ 17  เมษายน 2562  (6)     

เซนต์ วูฟกัง  –  ฮัลสตัทซ์   –   ซาลส์บวร์ก   – อินน์บรูกซ์

St. Wolfgang” Morning Fun Run จ้อกกิ้งยามเช้าริมทะเลสาบเซนต์ วูฟกัง (ประมาณ 3-4 ก.ม.)

เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน “ฮัลสตัทซ์” (Hallstatt) หมู่บ้านที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ภาพยอดโบสถ์สูงตระหง่านแวดล้อมด้วยบ้านเรือนริมทะเลสาบ ฉากหลังมีเนินเขาไม่สูงจนเกินไปตั้งอยู่ ทุกอย่างลงตัวจนทำให้ผู้มาเยี่ยมเยียนหลงไหลหมู่บ้านแห่งนี้ หลายคนเดินทางมาหมู่บ้านนี้หลายครั้งเพื่อให้เห็นความสวยงามที่แตกต่างในทุกฤดูกาล ไม่พลาดที่จะนำพาทุกท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับจุดโปสการ์ดวิว มีเวลาให้ท่านอิสระเลือกชมสินค้าที่ระลึกของหมู่บ้าน

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเอกของการท่องเที่ยวประเทศออสเตรีย เมือง “ซาล์สบวร์ก” (Salzburg) หรือ “ปราสาทเกลือ” เมืองริมแม่น้ำซาล์สซัค บ้านเกิดของคีตกวีเอกชื่อดัง “โวล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท” ผู้ประพันธ์ดนตรีคลาสสิกที่คุณแม่สมัยใหม่ใช้เปิดให้บุตรหลานฟังเพื่อเพิ่มพัฒนาการทางด้านอารมณ์และจิตใจ อีกทั้งยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เพลงชื่อดัง “The Sound of Music” หลายแห่ง เช่น สวนมิราเบล และ ป้อมปราการโฮเอนซาล์สบวร์ก นำท่านแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกรูปปั้นของคีตกวีโมสาร์ทและบ้านเลขที่ 9 สถานที่เกิดของโมสาร์ท มีเวลาให้ท่านได้อิสระเลือกชมของฝากท้องถิ่น ชอกโกแลตท้องถิ่น “Mozartkugel” ลักษณะเป็นลูกกลมมีฉลากเป็นรูปโมสาร์ทก็เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียว

กลางวัน             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

บ่าย                   นำท่านเดินทางสู่เมือง อินน์บรูกซ์ () ที่แปลความหมายของชื่อเมืองได้ว่า ”สะพานข้ามแม่น้ำอินซ์” เนื่องจากมีแม่น้ำอินซ์ไหลผ่านเมือง อีกทั้งยังมีความงดงามของแนวเทือกเขาแอลป์ที่โอบล้อมเมืองรอบด้าน สวยงามจนได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้ที่จะมาเยี่ยมเยียน จุดแลนด์มาร์กสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องเยี่ยมชมคือที่ตั้งของหลังคาทองคำ (Golden Roof) สัญลักษณ์สำคัญที่ตั้งอยู่ในเมืองเก่า หลังคาทองคำเป็นหลังคาของระเบียงที่ยื่นตัวออกมาที่มีจำนวนถึง 2,738 แผ่น ปัจจุบันใช้เป็นอาคารสำนักงาน และอีกจุดที่สวยงามคือบ้านสีลูกกวาดที่ตั้งริมแม่น้ำอินซ์ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเรียบร้อย มีเวลาอิสระซื้อของที่ระลึก สินค้าที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงที่สุดของเมืองแห่งนี้ก็คือเครื่องแก้วคริสตัล “Swarovski” ที่มีชื่อเสียงที่สุด กำเนิดจากเมืองแห่งนี้นั่นเอง

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เข้าพัก ณ

 

Hotel Grauer Bär

วันพฤหัสที่ 18 เม.ย. 62  (7)

อินซ์บรูกซ์ – มิทเทนวาร์ด  (เยอรมนี)  –  กระเช้าซูกสปิเซ่  –  โอเบอร์อัมเมอเกา  –  ฟุสเซน

“Innsbruck” Morning Fun Run  จ้อกกิ้งยามเช้าริมแม่น้ำอินซ์  (ประมาณ 5 ก.ม.)   

เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านข้ามพรมแดนสู่แคว้นบาวาเรีย ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี จุดแรกที่เยี่ยมชมคือเมืองมิทเทนวาร์ดที่ตั้งอยู่ในหุบเขาแอลป์ หมู่บ้านแห่งนี้เต็มไปด้วยศิลปะภาพวาดปูนเปียกเฟรสโก้แบบดั้งเดิมบนกำแพงอาคารต่าง ๆ อีกทั้งยังมีโบสถ์เซนต์ปีเตอร์แอนด์พอลจุดศูนย์รวมจิตใจคนท้องถิ่นให้แวะเยี่ยมชม แวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกท่ามกลางบรรยากาศหมู่บ้านบนเส้นทางโรแมนติคบาวาเรีย / จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สถานีเคเบิลคาร์ ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าสู่จุดสูงสุดของประเทศเยอรมนีที่มีความสูงถึง 2,962 เมตร ยอดเขาซูกสปิเซ่ที่เป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างประเทศเยอรมนี (แคว้นบาวาเรีย)และประเทศออสเตรีย (แคว้นทิโรล) ถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแบบพาโนรามา 360 องศาและกางเขนเหล็กสีทอง สัญลักษณ์จุดสูงสุดของยอดเขาซุกสปิเซ่แห่งนี้

กลางวัน             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย                   นำท่านเดินทางสู่อีกหนึ่งหมู่บ้านคลาสสิกชื่อดังแห่งแคว้นอัปเปอร์บาวาเรีย “โอเบอร์อัมเมอร์เกา” ชมภาพวาดเฟรสโก้ผลงานส่วนมากจะเกี่ยวกับศาสนาคริสต์และเรื่องราวในพระคัมภีร์ มีเวลาอิสระซื้อของฝากที่ระลึกท้องถิ่นหรือนั่งชิลผ่อนคลายอริยาบถตามร้านคาเฟ่ท้องถิ่นที่มีบริการนักท่องเที่ยวมากมาย / จากนั้นเมื่อได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่เมือง “ฟุสเซ่น” เมืองเริ่มต้นของการท่องเที่ยวเส้นทางสายโรแมนติกเยอรมัน เป็นเมืองที่ไม่ไกลจากปราสาทนอยชวานชไตน์จึงได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจมากเยี่ยมชมปราสาทแห่งนี้เข้าพักเพื่อเตรียมตัวเข้าชมปราสาท ตัวเมืองไม่ใหญ่นักน่ารักสมที่เป็นต้นทางเส้นทางสายโรแมนติก

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก พิเศษ!! ชิมเบียร์เยอรมันขนาดแท้ ณ เมืองฟุสเซ่น / เข้าพัก ณ Hotel Hirsch

วันศุกร์ที่ 19 เมษายน 62  (8)

ฟุสเซ่น – ปราสาทนอยชวานชไตน์ – กรุงมิวนิก ช้อปปิ้งสุดมันส์

เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่เมืองชวานเกา ที่ตั้งของปราสาทเทพนิยาย “นอยชวานชไตน์” สถานที่ท่องเที่ยวอันดับ 1 ของประเทศเยอรมนี ปราสาทนอยชวานชไตน์แห่งนี้ก่อสร้างโดยพระประสงค์ของกษัตริย์ลุดวิกที่ 2 แห่งแคว้นบาวาเรียในปี ค.ศ.1869 ก่อนการรวมชนชาติเยอรมันไม่กี่ปี ปราสาทแห่งนี้ไม่มีกำแพงล้อมที่ยิ่งใหญ่ เนื่องจากไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ในการทหารป้องกันเมือง อยู่บนเนินหน้าผาที่แวดล้อมด้วยป่าและทะเลสาบ ความสวยงามของปราสาทแห่งนี้ทำให้วอลท์ดิสนีย์นำเป็นต้นแบบในการสร้างปราสาทของสวนสนุกชื่อดังแห่งนี้

กลางวัน             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย                   นำท่านเดินทางสู่กรุงมิวนิก เยี่ยมชมใจกลางเมืองเก่ามิวนิก จตุรัส “มาเรียนส์พลาส” (Marienplatz) ที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองหลังใหม่ อาคารสไตล์นีโอโกธิคที่สวยงาม จุดศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มาเที่ยวชมนครมิวนิกแห่งนี้

นำพาท่านแวะชม “Frauenkirche” หรือ Munich Cathedral มหาวิหารมิวนิก อีกหนึ่งสถานที่ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของนครมิวนิก ด้านในมีรอยเท้าซาตานฝังอยู่ที่พื้น ตามตำนานการก่อสร้างมหาวิหารแห่งนี้ จากนั้นท่านใดต้องการช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าให้กับตนเองหรือฝากคนที่บ้านก่อนกลับเมืองไทย มีเวลาอิสระให้ท่านได้เลือกชมเลือกซื้ออย่างเต็มที่ จตุรัสมาเรียนส์พลาสแวดล้อมไปด้วยร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง ช็อปนาฬิกาสวิสยี่ห้อหรู หรือแฟชั่นสตรีทแบรนด์ก็มีมากมาย ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาเก็ต สามารถตอบโจทย์ของทุกท่านได้แน่นอน

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน / เข้าพัก ณ โรงแรมที่พัก

วันเสาร์ที่ 20 เมษายน 62  (9)   

กรุงมิวนิก  –  สนามบินมิวนิก

“Munich” Morning Fun Run  จ้อกกิ้งยามเช้า ณ กรุงมิวนิก  (ประมาณ 5 ก.ม.)   

เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย เก็บกระเป๋าสัมภาระก่อนเดินทางสู่สนามบินมิวนิก หากท่านใดมีเอกสารขอคืนภาษี มีเวลาให้ท่านตรวจสอบเอกสารคืนภาษีกับหัวหน้าทัวร์ก่อนเดินทางสู่สนามบิน

10:00 น.            นำท่านเดินทางสู่สนามบินมิวนิก ทำการเช็คอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระ เที่ยวบิน TG 925 เมื่อผ่านขั้นตอนตรวจหนังสือเดินทางเรียบร้อย มีเวลาให้ท่านเลือกชมสินค้า Duty Free ก่อนออกเดินทาง

**หากท่านใดมีการทำคืนภาษี กรุณาแจ้งหัวหน้าทัวร์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ท่าน**

(อาหารมื้อกลางวันบนเครื่อง เสิร์ฟหลังจากออกเดินทางแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง)

13:35 น.            ออกเดินทางสู่กรุงเทพมหานคร ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 925

วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2562  (10)

สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ

06:10 น.            เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพพร้อมทั้งความประทับใจสำหรับการเดินทางครั้งนี้

******************************

อัตราค่าบริการ

ยุโรปตะวันออก 10 วัน (ช่วงสงกานต์)  (TG)

12 – 21 เมษายน 2562

รายละเอียด ราคา / ท่าน
ผู้ใหญ่ พักห้องคู่ 2 ท่าน (Twin-Double Room) 102,900.- บาท
ผู้ใหญ่ กรณีพักท่านที่ 3 (Tripple Room) 102,900.- บาท
ผู้ใหญ่ กรณีพักเดี่ยว (Single Room) ชำระเพิ่ม   15,900.- บาท

***กรุณาอ่านรายละเอียดการจองทัวร์***

 อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าบัตรโดยสารเครื่องบินชั้นประหยัด ( Economy Class) เดินทางเป็นหมู่คณะไปและกลับพร้อมคณะ (กรณีเดินทางไม่พร้อมคณะ กรุณาต่อติดต่อกับบริษัททัวร์ เงื่อนไขตั๋วเป็นไปตามสายการบินกำหนด)
  • ค่าภาษีสนามบินตามรายการบัตรโดยสารเครื่องบิน
  • รถโค้ชปรับอากาศ นำเที่ยวตลอดเส้นทางตามรายการที่ระบุ
  • ค่าโรงแรมที่พักมาตรฐานตามรายการที่ระบุหรือเทียบเท่า
  • ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ (อาหารพื้นเมือง อาหารจีน อาหารไทย ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง)
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ที่ระบุตามรายการ
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าของสถานทูต (หากท่านมีวีซ่าแล้ว คืนค่าวีซ่า 2,400.- บาท/ท่าน – กรณีวีซ่าไม่ผ่านแล้วดำเนินการยื่นใหม่ท่านต้องชำระค่าธรรมเนียมด้วยตัวเอง)
  • ค่าทิปพนักงานขับรถในยุโรปตามเส้นทางที่ระบุในรายการ
  • ค่ามัคคุเทศก์จากเมืองไทยให้ข้อมูลความรู้และอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทางท่องเที่ยวที่ระบุในรายการ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางในระหว่างเดินทางวงเงินไม่เกิน 1,500,000.- บาท เงื่อนไขตามกรมธรรม์กำหนด
  • น้ำดื่มบนรถ 1 ขวด / วัน

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าจัดทำหนังสือเดินทาง (Passport)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น อาหารเครื่องดื่มนอกเหนือจากรายการที่ระบุ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ มินิบาร์ในห้องพัก ฯลฯ
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋ากรณีเกินกว่าสายการบินกำหนด (การบินไทยกำหนดกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง 30 กก./ท่าน)
  • ค่าบริการขนย้ายกระเป๋าส่งที่ห้องพักในโรงแรมที่พัก (ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ป้องกันการสูญหาย ส่งผิด ส่งล่าช้าหรือกระเป๋าพลัดหลงไปกับคณะอื่น แต่หากท่านต้องการความช่วยเหลือในการขนย้ายกระเป๋า กรุณาแจ้งหัวหน้าทัวร์ ทางหัวหน้าทัวร์ยินดีช่วยเหลือท่านด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง)
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (หัวหน้าทัวร์) ธรรมเนียมปฏิบัติสากล 1,000.- บาท / ท่าน

การชำระค่าบริการ /การจองทัวร์

  • ผู้เดินทางหรือผู้จองทัวร์ต้องชําระค่ามัดจําท่านละ 30,000.- บาท ภายใน 3 วันหลังจากสำรองที่นั่ง
  • ผู้เดินทางหรือผู้จองทัวร์ชำระค่าบริการส่วนที่เหลือก่อนออกเดินทางอย่างน้อย 21 วัน

*** กรุณาเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าอย่างน้อย 30 วัน ก่อนการเดินทาง กรณีช่วงไฮซีซั่น 45 วัน***

ติดต่อจองทัวร์หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

         บริษัท บีคอนบอย ทราเวล จำกัด (ใบอนุญาตเลขที่ 11/09262)

 15/2 ซ.สุคนธสวัสดิ์ 3 แยก 1 แขวง / เขต ลาดพร้าว กรุงเทพ 10230

www.beaconboytravel.com / Facebook: Beaconboy Travel/Line@:@beaconboytravel

อีเมล์: info@beaconboytravel.com เบอร์โทรศัพท์: 02-048-4757 / 091-7784757