ยุโรปดอกไม้เคอเคนฮอฟ และชมซากุระบานเมืองบอนน์ เยอรมนี

เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวกลุ่มประเทศเบเนลักซ์และเยอรมนีลุ่มแม่น้ำไรน์

เติมเต็มเรื่องราวของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมผ่านโปรแกรมทัวร์คุณภาพ

เดินทาง 23 เม.ย. – 1 พ.ค. 62

คลิก>>>โหลดโปรแกรม…

กำหนดการเดินทาง

วันอังคารที่ 23  เมษายน 2562  (1)  

กรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ

20:00 น.            คณะเดินทาง พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์ G สายการบินลุฟต์ฮันซา พบเจ้าหน้าที่ “Beaconboy Travel”  คอยอำนวยความสะดวกเช็คอินโหลดกระเป๋าสัมภาระ

23:00 น.            ออกเดินทางสู่เมืองแฟรงเฟิร์ต  ประเทศเยอรมนี โดยสายการบินลุฟต์ฮันซา เที่ยวบิน LH 773

วันพุธที่ 24 เมษายน 2562  (2)      

แฟรงเฟิร์ต (เยอรมนี)   –  บอนน์   –   โคโลจน์

06.00 น.            เดินทางถึงสนามบินนานาชาติกรุงแฟรงเฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ประเทศมหาอำนาจ ผู้นำทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองในสหภาพยุโรป มีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศไทยอย่างยาวนาน เบียร์เยอรมัน ใส้กรอก ยานยนต์ ทีมฟุตบอล หรือแม้แต่ครีมทาผิวยี่ห้อนีเวีย ก็ล้วนแล้วแต่มาจากประเทศแห่งนี้ทั้งสิ้น  หลังจากรับกระเป๋าสัมภาระและผ่านขั้นตอนการตรวจหนังสือเดินทางเรียบร้อย นำท่านเดินทางสู่กรุงบอนน์ (Bonn) เมืองหลวงเก่าของเยอรมนีตะวันตกก่อนที่จะมีการรวมประเทศเยอรมนีแล้วลดบทบาทลงให้กรุง “เบอร์ลิน” เป็นเมืองหลวงของประเทศเยอรมนี นำท่านชมความสวยงามของกรุงเก่าอาคารสถาปัตยกรรมที่สวยงามสมกับที่เป็นเมืองหลวงเก่าที่ตั้งอยู่ริแม่น้ำไรน์เส้นสำคัญของสหภาพยุโรป  เยี่ยมชมบ้านเกิดของนักดนตรียอดอัจฉริยะ “ลุดวิก ฟาน เบโธเฟ่น” สุดยอดนักดนตรีคลาสสิกที่แม้ว่าหูหนวกแต่ก็ยังคงประพันธ์ดนตรีได้ แห่งนี้ และพิเศษ!! ช่วงเวลาที่จัดนำพาท่านเข้าเยี่ยมเยียนกรุงบอนน์ เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะได้เยี่ยมชมดอกซากุระบาน ณ ถนนเมืองเก่าใจกลางกรุงบอนน์ ที่มีความสวยงามไม่แพ้กับซากุระที่ประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว  **(ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละปี แต่ช่วงเวลาที่คณะเดินทางเยี่ยมชม ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในฤดูกาล)**

กลางวัน             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย                   นำท่านเดินทางสู่เมืองโคโลญ หรือ โคลน์ ในภาษาเยอรมัน เมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์เช่นเดียวกับเมืองบอนน์ ดังนั้นจึงมีสะพาน “โฮเอนซอลเลน” ที่สวยงาม นำพาท่านถ่ายรูปที่เป็นที่ระลึกกับแลนด์มาร์กสำคัญสะพานแห่งนี้ จากนั้นนำท่านเยี่ยมชมสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโคโลญ “มหาวิหารโคโลญ” ที่มีความสวยงามตามแบบฉบับศิลปะแบบโกธิคยิ่งใหญ่สูงเทียมฟ้าใกล้ชิดพระเจ้าให้มากที่สุดด้วยความสูงถึง 157 เมตร เคยได้รับตำแหน่งอาคารที่สูงที่สุดในโลกมาแล้วในยุคนั้น มีเวลาให้ท่านเข้าเยี่ยมชมสักการะบูชา ก่อนที่จะนำพาสู่ถนนคนเดินชื่อดัง “Hohe Strasse” ที่เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนมของฝากของที่ระลึกมากมาย ที่พลาดไม่ได้คือน้ำหอม “โคโลญ 4711” ที่เป็นต้นฉบับคำว่าน้ำหอมโคโลญที่นิยมใช้กันไปทั่วโลก

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน / เข้าพัก ณ โรงแรมที่พัก เมืองโคโลญ

วันพฤหัสบดีที่ 25 เม.ย. 2562  (3)      

โคโลญ  –   กีธูรน์ (เนเธอแลนด์)  –  กรุงอัมส์เทอดาม

“Cologne” Beaconboy Morning Fun Run (5 k.m. / 50 Mins)

เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศเนเธอแลนด์ มุ่งหน้าสู่หมู่บ้านสุดชิลหมู่บ้านกีธูรน์ (Giethoorn) หมู่บ้านแห่งนี้ไร้ซึ่งถนน ผู้คนทำมาหากินทำไร่ทำฟาร์มไปมาหาสู่โดยเรือโดยสารเท่านั้น ตัวอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ ตกแต่งน่ารักลักษณะกระท่อมสไตล์ไม่ซ้ำกัน มีสเน่ห์เอกลักษณ์ที่สำคัญตั้งอยู่ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ริมทะเลสาบ นำท่านล่องเรือชมความสวยงามของธรรมชาติและหมู่บ้านแห่งนี้ (ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 50 นาที)

กลางวัน             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

บ่าย                   จากนั้นเมื่อได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่กรุงอัมส์เทอดาม เมืองหลวงของประเทศเนเธอแลนด์ ประเทศที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกในเรื่องของกังหันลม , เบียร์ไฮเนเกน , โทเทิลฟุตบอล ,  ดอกทิวลิปซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของโปรแกรมที่จะมาเยี่ยมชม อีกทั้งสำหรับองค์ความรู้ของชาวดัตช์ ที่มีทักษะความชำนาญที่สุดในโลกในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ทำให้ประเทศไทยมีอธิบดีกรมชลประทานคนแรก (เจ้ากรมคลอง) ก็คือนาย “เย โฮมัน วันเดอร์ ไฮเด” วิศวกรชาวดัตช์นั่นเอง

นำท่านชมครบทุกไฮไลท์สำคัญของกรุงอัมส์เทอดามที่มาจากคำที่แปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วคือ Amstel+dam “เขื่อนกั้นแม่น้ำอัมส์เทล” ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดในโลก โยงใยด้วยเครือข่าย “คลอง” ลักษณะใยแมงมุม ที่วัดขนาดแล้วมีความยาวรวมกันกว่า 100 กิโลเมตร ทำให้เกิดเป็นเกาะต่าง ๆ มากถึงเกือบร้อยกว่าและสะพานเชื่อมต่อเกาะต่าง ๆ กว่าพันสะพาน ชมจัตุรัสสำคัญใจกลางเมือง จัตุรัสดามสแควร์ (Dam Square) ที่ตั้งของพระราชวังหลวง (Royal Palace), โบสถ์ใหม่ (The New Church) ที่แม้จะชื่อว่าใหม่ แต่ก็ก่อสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 จากนั้นนำท่านเยี่ยมชมย่านโคมแดง (Red Light District) แหล่งค้าประเวณีที่ถูกกฎหมายของประเทศเนเธอแลนด์ที่เปิดทำการทั้งวันทั้งคืน แต่ห้ามเด็ดขาดที่จะถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เพราะไม่อนุญาต แต่ย่านนี้ปลอดภัยไร้กังวลสำหรับนักท่องเที่ยวมีเจ้าหน้าที่และตำรวจตรวจตราอยู่เป็นประจำ จากนั้นอิสระท่านเดินชมย่านการค้าถนนชอปปิ้ง “Nieuwendijk” เลือกซื้อของฝากของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เข้าพัก ณ โรงแรมที่พัก กรุงอัมส์เทอดาม

วันศุกร์ที่ 26 เม.ย. 2562  (4)

กรุงอัมส์เทอดาม  –  ล่องเรือหลังคากระจก  – โวเลนดัม  –  ซาน สคันซ์

เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเยี่ยมชมย่านจัตุรัสมิวเซียม (Museumplein) เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ชื่อดังมากมาย แวะถ่ายรูปกับป้าย “I Amsterdam Sign” ที่ปัจจุบันใครมาอัมส์เทอดามแล้วไม่ได้ถ่ายรูปด้วยถือว่ายังมาไม่ถึง


นำท่านล่องเรือหลังคากระจก “Amsterdam Canal Cruise” ชมความสวยงามของคลองต่าง ๆ สะพาน และบ้านริมคลองสไตล์ดัชที่มีเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมโดดเด่น หน้าบ้านทรงสูงและแคบเนื่องจากรัฐบาลท้องถิ่นเก็บภาษีตามความกว้างของหน้าอาคาร ชม “เรือบ้าน” (Houseboats) ที่ชาวดัตช์ใช้อยู่อาศัยจริง ปัจจุบันมีดัดแปลงเป็นร้านกาแฟ ร้านอาหาร ตลอดจนให้เช่าเป็นโรงแรมที่พัก ศิลปะศิลปินสไตล์ดัตช์ขนานแท้

นำท่านแวะเยี่ยมชมโรงงานเจียรนัยเพชรและอัญมณีที่ปัจจุบัน 90 % ของช่างฝีมือเจียรนัยเพชรระดับโลกได้อยู่ใช้ทักษะฝีมืออยู่ ณ โรงงานแห่งนี้ สมกับที่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเนเธอแลนด์เป็นศุนย์กลางการค้าเพชรที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

กลางวัน             รับประทานอาหากลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย                   นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านชาวประมง “โวเลนดัม” (Volendum) เมืองท่าที่สำคัญในอดีต ปัจจุบันคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมบ้านชาวประมงที่ยังอนุรักษณ์แบบโบราณดั้งเดิมเอาไว้ ที่พลาดไม่ได้และมีชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบันก็คือโรงงานผลิต “ชีส” ชื่อดัง อย่าพลาดที่จะชิมชีสพื้นเมืองสูตรลับเฉพาะหมู่บ้านโวเลนดัมแห่งนี้ 

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่อีกหนึ่งสถานที่ไฮไลท์สำคัญของโปรแกรมนี้ เยี่ยมชมหมู่บ้านกังหันลม “ซาน สคันซ์” ท่านจะได้ชม ได้สัมผัส ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับกังหันลมโบราณของแท้  ในอดีตชาวดัตช์มีภูมิปัญญาอันชาญฉลาดที่ได้ใช้พลังงานลมมาปั่นกังหันเพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม มีทั้งโรงงานผลิตสี โรงบด อู่ต่อเรือ และอื่น ๆ อีกมากมาย ช่วงศตวรรษที่ 18 มีการบันทึกไว้ว่าบริเวณแถบนี้มีกังหันลมมากกว่าพันตัว ปัจจุบันเหลืออยู่ 7-8 ตัว ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ อิสระให้ท่านเยี่ยมชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย ก่อนกลับแวะพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมที่สาธิตแสดงการผลิตรองเท้าไม้ ที่เป็นเครื่องแต่งกายของชาวดัตช์ในอดีต เป็นอีกหนึ่งของฝากที่นิยมซื้อหาจากประเทศแห่งนี้

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน / เข้าพัก ณ โรงแรมที่พัก

วันเสาร์ที่ 27 เม.ย. 2562  (5)

เทศกาลเคอเคนฮอฟ  –  กรุงเฮก  –  บรูจส์ (เบลเยี่ยม)

เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่เมืองลิซเซ่ ที่ตั้งของสวนดอกไม้ “เคอเคนฮอฟ” (Keukenhof) งานเทศกาลแสดงดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยเฉพาะดอกทิวลิป ที่ถึงแม้ว่าต้นกำเนิดจะมาจากแถบประเทศตุรกี แต่ปัจจุบันประเทศเนเธอแลนด์ได้พัฒนาสายพันธุ์ต่าง ๆ จนได้รับการยอมรับว่าเป็นเบอร์ 1 ในโลกแห่งดอกทิวลิป 

ใครชอบความสวยงามของดอกไม้ชนิดนี้รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน และที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง คือการเยี่ยมชมแปลงปลูกดอกทิวลิปสายพันธุ์ “King Bhumibol” ที่นาย กลาส คูไดค์ (Klaas Koedijk) มีความใกล้ชิดกับประเทศไทยและประทับใจในความจงรักภักดีของประชาชนชาวไทยที่มีต่อองค์ในหลวง ร.9 ในช่วงการจัดงานเฉลิมฉลองในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ดังนั้นจึงได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาติจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้ตั้งชื่อแก่ดอกทิวลิปที่ค้นพบสายพันธุ์ใหม่พันธุ์นี้ โดยดอกทิวลิปคิงภูมิพลเป็นดอกที่มีสีเหลืองอร่ามทั้งดอก และมีความยาวก้านประมาณ 45 ซ.ม.สวยงามสง่าเป็นอย่างยิ่งในเทศกาลเคอเคนฮอฟ
ยังมีดอกไม้ชนิดอื่นให้ชมอีกมากมาย จัดแบ่งเป็นโซน มีคอฟฟี่ชอป ร้านจำหน่ายของที่ระลึก กังหันโบราณให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก สมกับเป็นเทศกาลระดับโลกที่เปิดให้เยี่ยมชมมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1950 แต่ละปีจะเปิดให้เยี่ยมชมเป็นระยะเวลาแค่ 2 เดือนเท่านั้น

กลางวัน             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย                   นำท่านเดินทางสู่ “กรุงเฮก” (The Haugue) เมืองใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ กรุงเฮกไม่ใช่เมืองหลวง แต่เป็นที่ตั้งที่ทำการของรัฐบาลเนเธอแลนด์และยังเป็นที่ตั้งของพระราชวังที่ประทับของกษัตริย์เนเธอแลนด์อีกด้วย / นำท่านเยี่ยมชมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) หรือ ศาลโลก เป็นหน่วยงานสังกัดองค์การสหประชาชาติ ที่ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างประเทศ ตัวอย่างเช่นกรณีเขาพระวิหารระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ศาลโลกนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอาคาร“วังสันติภาพ” (Peace Palace) สไตล์เรเนอซองส์ที่สวยงาม แผงไปด้วยความยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1913 ด้วยเงินบริจาคจาก “แอนดรูว์ คาร์เนกี” (Andrew Carnegie) เศรษฐีชาวสกอตแลนด์

จากนั้นเมื่อได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศเบลเยี่ยม มุ่งหน้าสู่เมือง “บรูจส์ “ เมืองที่เป็นเมืองท่าเรือศูนย์กลางการค้าขายในอดีตแต่เกิดเหตุแม่น้ำตื้นเขิน ทำให้การค้าซบเซา แต่เมืองก็ยังคงเอกลักษณ์สภาพของเมืองเก่าในอดีตไว้ได้อย่างดี จนได้รับการรับรองเป็นมรดกโลกยูเนสโก้ในปี ค.ศ. 2000

นำท่านชมจัตุรัสสำคัญกลางเมือง จัตุรัสตลาด หรือ “Markt” มีกลุ่มอาคารราชการ มหาวิหาร หอระฆัง พิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมล้อมรอบจตุรัสแห่งนี้ ทำให้กลายเป็นจุดศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นโดยปริยาย นำท่านชมโดยรอบก่อนที่จะอิสระท่านเก็บภาพความสวยงามของเมืองสุดชิลแห่งนี้

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เข้าพัก ณ โรงแรมที่พัก เมืองบรูจส์

วันอาทิตย์ที่ 28 เม.ย. 2562  (6)

บรูจส์   –   เกนท์   –   กรุงบรัสเซลส์

เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่เมืองเกนท์ อีกหนึ่งเมืองสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์และการท่องเที่ยวของเบลเยี่ยม เป็นเมืองที่มีความสวยงามของมหาวิหาร ป้อมปราการ และหอระฆังที่ยิ่งใหญ่สวยงาม เปรียบได้กับเมือเอดินบะระของของประเทศสกอตแลนด์ นำท่านเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารเซนต์บาโว , หอระฆังเบลฟอร์ตและมหาวิหารเซนต์นิโคลัส ที่ตั้งอยู่เรียงลำดับกัน เห็นแล้วเกินความเลื่อมใสศรัทธา จากนั้นเดินเพลินชมย่านบ้านริมน้ำสไตล์โกธิคที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ “ไลส์” (Lys) เรืองรายสวยงาม ข้ามน้ำที่สะพานเซนต์ไมเคิลเก็บภาพโปสการ์ดวิวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปภาพโปสการ์ดวิวบริเวณนี้ จากนั้นอิสระท่านชมบรรยากาศท้องถิ่นยามเช้า ณ จัตุรัส “Korenmarkt” เลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย

กลางวัน             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย                   นำท่านเดินทางสู่ “กรุงบรัสเซลส์” เมืองหลวงแห่งประเทศเบลเยี่ยมและอีกทั้งยังถือว่าเป็นเมืองหลวงแห่งสหภาพยุโรป (European Union) ก่อนเดินทางถึง แวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับ “อโตเมียม” สถาปัตยกรรมแห่งวิทยาการ อาคารที่มีลักษณะเป็นรูปอะตอมไฮเทคสุดล้ำ เชื่อมต่อกันด้วยส่วนต่าง ๆ ที่เป็นทรงกลมขนาดใหญ่จำนวน 9 ลูก สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1958 ช่วงที่บรัสเซลส์ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo ’58 จากนั้นเมื่อได้เวลาอันสมควร

นำท่านเดินทางสู่ใจกลางเมืองเก่าบรัสเซลส์ เยี่ยมชมจัตุรัส “กรองด์ปลาซ” (Grand Place) อันเลื่องชื่อ ที่หลายๆท่านยกให้เป็นจัตุรัสที่สวยที่สุดในยุโรป แวดล้อมไปด้วยอาคารสถาปัยกรรมที่สวยงาม ศาลาว่าการเมืองสไตล์โกธิค , พิพิธภัณฑ์เมืองบรัสเซลส์, และกลุ่มอาคารคฤหาสน์หรูหราที่ “Victor Hugo” นักประพันธ์ชาวฝรั่งเศสก็เคยพำนักอาศัยอยู่ที่จตุรัสแห่งนี้

นำท่านเยี่ยมชมอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญที่มาบรัสเซลส์แล้วจะพลาดไม่ได้ก็คืน รูปปั้นหนุ่มน้อยยืนฉี่ “แมนเนเคน พิส” รูปหล่อปฎิมากรรมจากทองบรอนซ์ จากนั้นอิสระให้ท่านเลือกซื้อของฝากของที่ระลึก อย่าลืมเลือกซื้อของที่ระลึกที่มีสัญลักษณ์ของหนุ่มน้อยคนนี้ มีให้เลือกอย่างมากมายและ “ช้อกโกแลตเบลเยี่ยม” ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อที่หลายสำนักต่างยกย่องว่าเป็นช้อคโกแลตที่อร่อยที่สุดในโลก

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น / เข้าพัก ณ โรงแรมที่พัก เมืองบรัสเซลส์

วันจันทร์ที่ 29 เม.ย. 2562  (7)

กรุงบรัสเซลส์  –  ดีน็อง  –  ลักเซมเบิร์ก  –  เทียร์ (เยอรมนี)

เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่เมือง ดีน็อง (Dinant) เมืองบ้านเกิดของเครื่องดนตรีคลาสสิก “แซกโซโฟน” เมืองเล็กที่มีความน่ารักลงตัว บ้านโบราณริมน้ำ หน้าผาสูงชัน และโบสถ์น็อตเตอดาม เป็นองค์ประกอบที่ลงตัว ณ ริมแม่น้ำมิวส์ ทำให้เกิดภาพบรรยากาศวิวทิวทัศน์เป็นที่จดจำของผู้คนที่ได้มาพบเห็น แน่นอนต้องไม่พลาดเก็บภาพที่ระลึก ณ บริเวณนี้ จากนั้นอิสระท่านอิสระเดินชิลชมเมืองน่ารัก  “ดีน็อง” แห่งนี้

กลางวัน             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

บ่าย                   นำท่านเดินทางสู่ประเทศ “ลักเซมเบิร์ก” ประเทศที่ถือว่าเป็นประเทศเล็กที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีพื้นที่เพียงแค่ 2,586 ตร.กม. เมืองหลวงมีชื่อเดียวกับประเทศ แต่รายได้ต่อหัวของประชากรถือว่าเป็นอีกประเทศที่คนร่ำรวยที่สุดในโลก นำท่านเยี่ยมชมจุดชมวิวทิวทัศน์ของเมืองแห่งนี้ที่มีลักษณะเป็นหุบเขา มีสะพานโค้งสไตล์โรมันพาดผ่าน สวยงามลงตัวปิดท้ายกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ก่อนเดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศเยอรมนี

เมื่อได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่เมืองเทียร์ ประเทศเยอรมนี เมืองโบราณทางตะวันตกที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโมเซล ที่หลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญเป็นประตูเมืองโรมันโบราณ (Porta Nigra) ที่พิสูจน์และแสดงให้เห็นแล้วว่ามีการก่อสร้างตั้งแต่ช่วง ค.ศ.180 จึงทำให้เมืองเทียร์ถือว่าเป็นเมืองในประเทศเยอรมนีที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง นำท่านชมและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก จากนั้นนำท่านชมย่านเมืองเก่า ที่ตั้งของมหาวิหารสำคัญ “มหาวิหารแห่งเทียร์” มหาวิหารโรมันคาทอลิกที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเยอรมนี สร้างด้วยศิลปะงดงามแบบโรมาเนสก์ ได้รับการรับรองเป็นมรดกโลกยูเนสโกเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง เยี่ยมชมและอิสระท่านซึมซับบรรยากาศเมืองคลาสสิกแห่งนี้

ค่ำ                     รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เข้าพัก ณ โรงแรมที่พัก เมืองเทียร์

วันอังคารที่ 30 เม.ย. 2562  (8)

เทียร์  –  ไฮเดลเบิร์ก   –   แฟรงเฟิร์ต   –   สนามบินแฟรงเฟิร์ต

เช้า                   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่เมือง “ไฮเดลเบิร์ก” เมืองที่มีความผูกพันกับคนไทยเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นเมืองที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ทรงประสูติ ณ เมืองแห่งนี้ ไฮเดลเบิร์กเป็นเมืองที่มีความสวยงาม มีปราสาทใหญ่ตั้งอยู่บนเนินเขาริมแม่น้ำเนคการ์ มีสะพานคาร์ลธีโอดอร์ที่เป็นจุดชมความสวยงามของปราสาทไฮเดลเบิร์กบนเนินเขาได้ชัดเจน อีกทั้งยังมีโบสถ์ใหญ่ไฮลิกไกส์จุดศูนย์รวมความศรัทธาของชาวไฮเดลเบิร์ก นำท่านเข้าชมปราสาทไฮเดลเบิร์กและทุกจุดไฮไลท์สำคัญและมีเวลาอิสระให้ท่านชมย่านถนนคนเดินเขตเมืองเก่าตามอัธยาศัย

กลางวัน             รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย

บ่าย                   นำท่านเดินทางสู่เมือง “แฟรงเฟิร์ต” เมืองสุดท้ายที่จะนำพาท่านเยี่ยมชมในโปรแกรมนี้ แฟรงเฟิร์ตถือเป็นเมืองใหญ่อันดับ 5 ของประเทศเยอรมนี มีแม่น้ำไมน์ไหลผ่าน เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและเป็นศูนย์กลางทางด้านการคมนาคมทางอากาศ เป็นศูนย์กลางการบินของสายการบินลุฟต์ฮันซาและสำนักงานใหญ่เครือข่ายการบินสตาร์อลิอันซ์ นำท่านเยี่ยมชมจุดประวัติศาสตร์ใจกลางเมือง “จตุรัสโรเมอร์” ที่ตั้งของน้ำพุแห่งความยุติธรรมแห่งความเที่ยงที่มีเทพีแห่งความเที่ยงตรงถือตราชั่งและดาบเปรียบดั่งการตัดสินและลงโทษอย่างเฉียบขาด ชมบ้านโครงไม้โบราณสัญลักษณ์คุ้นตาของจัตุรัสแห่งนี้ จากนั้นมีเวลาให้ท่านเลือกซื้อสินค้าของฝาก มีทั้งของท้องถิ่นและพรีเมี่ยมแบรนด์เนมมากมาย ก่อนที่จะได้เวลาอันสมควรเดินทางสู่สนามบินแฟรงเฟิร์ตและเพื่อความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าของฝากของที่ระลึก อิสระท่านเลือกทานมื้อเย็นได้ตามอัธยาศัย

18:00                ออกเดินทางสู่สนามบินแฟรงเฟิร์ต ทำการเช็คอินและโหลดกระเป๋าสัมภาระ เที่ยวบิน LH 772 เมื่อผ่านขั้นตอนตรวจหนังสือเดินทางเรียบร้อย มีเวลาให้ท่านเลือกชมสินค้า Duty Free ก่อนออกเดินทาง

**หากท่านใดมีการทำคืนภาษี กรุณาแจ้งหัวหน้าทัวร์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ท่าน**

(อาหารมื้อกลางวันบนเครื่อง เสิร์ฟหลังจากออกเดินทางแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง)

22:00 น.            ออกเดินทางสู่กรุงเทพมหานคร ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน LH 772

วันพุธที่ 1 พ.ค. 2562  (9)

สนามบินสุวรรณภูมิ

14:10 น.            เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพพร้อมทั้งความประทับใจสำหรับการเดินทางครั้งนี้…

***************************

***รายละเอียดโปรแกรมและข้อมูลจัดทำขึ้นเมื่อ ต.ค.2561 โดยทีมงานบีคอนบอย ทราเวลอนุญาติและยินดีหากต้องการคัดลอกไปใช้ประโยชน์***

 

อัตราค่าบริการ

ยุโรปดอกไม้ 9 วัน  (LH)

23 เมษายน – 01 พฤษภาคม 2562

รายละเอียด ราคา / ท่าน
ผู้ใหญ่ พักห้องคู่ 2 ท่าน (Twin-Double Room) 101,900.- บาท
ผู้ใหญ่ กรณีพักท่านที่ 3 (Tripple Room) 101,900.- บาท
ผู้ใหญ่ กรณีพักเดี่ยว (Single Room) ชำระเพิ่ม   21,900.- บาท

***กรุณาอ่านรายละเอียดการจองทัวร์***

 อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าบัตรโดยสารเครื่องบินชั้นประหยัด ( Economy Class) เดินทางเป็นหมู่คณะไปและกลับพร้อมคณะ (กรณีเดินทางไม่พร้อมคณะ กรุณาต่อติดต่อกับบริษัททัวร์ เงื่อนไขตั๋วเป็นไปตามสายการบินกำหนด)
  • ค่าภาษีสนามบินตามรายการบัตรโดยสารเครื่องบิน
  • รถโค้ชปรับอากาศ นำเที่ยวตลอดเส้นทางตามรายการที่ระบุ
  • ค่าโรงแรมที่พักมาตรฐานตามรายการที่ระบุหรือเทียบเท่า
  • ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ (อาหารพื้นเมือง อาหารจีน อาหารไทย ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง)
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ที่ระบุตามรายการ
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าของสถานทูต (หากท่านมีวีซ่าแล้ว คืนค่าวีซ่า 2,400.- บาท/ท่าน – กรณีวีซ่าไม่ผ่านแล้วดำเนินการยื่นใหม่ท่านต้องชำระค่าธรรมเนียมด้วยตัวเอง)
  • ค่าทิปพนักงานขับรถในยุโรปตามเส้นทางที่ระบุในรายการ
  • ค่ามัคคุเทศก์จากเมืองไทยให้ข้อมูลความรู้และอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทางท่องเที่ยวที่ระบุในรายการ
  • ค่าประกันภัยการเดินทางในระหว่างเดินทางวงเงินไม่เกิน 1,500,000.- บาท เงื่อนไขตามกรมธรรม์กำหนด
  • น้ำดื่มบนรถ 1 ขวด / วัน

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าจัดทำหนังสือเดินทาง (Passport)
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น อาหารเครื่องดื่มนอกเหนือจากรายการที่ระบุ ค่าซักรีด ค่าโทรศัพท์ มินิบาร์ในห้องพัก ฯลฯ
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋ากรณีเกินกว่าสายการบินกำหนด (สายการบินลุฟต์ฮันซา กำหนดกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง 23 กก./ท่าน)
  • ค่าบริการขนย้ายกระเป๋าส่งที่ห้องพักในโรงแรมที่พัก (ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ป้องกันการสูญหาย ส่งผิด ส่งล่าช้าหรือกระเป๋าพลัดหลงไปกับคณะอื่น แต่หากท่านต้องการความช่วยเหลือในการขนย้ายกระเป๋า กรุณาแจ้งหัวหน้าทัวร์ ทางหัวหน้าทัวร์ยินดีช่วยเหลือท่านด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง)
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (หัวหน้าทัวร์) ธรรมเนียมปฏิบัติสากล 1,000.- บาท / ท่าน

การชำระค่าบริการ /การจองทัวร์

  • ผู้เดินทางหรือผู้จองทัวร์ต้องชําระค่ามัดจําท่านละ 30,000.- บาท ภายใน 3 วันหลังจากสำรองที่นั่ง
  • ผู้เดินทางหรือผู้จองทัวร์ชำระค่าบริการส่วนที่เหลือก่อนออกเดินทางอย่างน้อย 21 วัน

*** กรุณาเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าอย่างน้อย 30 วัน ก่อนการเดินทาง กรณีช่วงไฮซีซั่น 45 วัน***