เยอรมนี ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย
-พิชิต ยอดเขาจุงเฟรา Top of Europe โดยรถไฟฟันเฟือง พร้อมสนุกสนานกับ ลานหิมะ และ ถ้ำน้ำแข็ง
-เที่ยว2 ปราสาทแสนสวยของเยอรมนี ปราสาทแห่งเทพนิยายนอยชวานสไตน์ และ ปราสาทคลาสสิคไฮเดลเบิร์ก
-นั่งรถไฟ สายโรแมนติก Appenzeller สู่ หมู่บ้านอัพเพนเซล
-ล่องเรือ ณ ทะเลสาบกษัตริย์ และ ทะเลสาบมรกต BLAUSEE ของสวิส
เดินทางวันที่ 27 ธ.ค. – 06 ม.ค. 2562
** โปรแกรมส่งท้ายปี **
คลิก>>>โหลดโปรแกรม…
วัน พฤหัสฯ ที่ 27 ธ.ค.61
สนามบินสุวรรณภูมิ – กรุงเทพฯ – แฟรงค์เฟิร์ต (1)
20.30 น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูทางเข้าหมายเลข 2 – 3 เคาน์เตอร์ D โดย สายการบินไทย (TG) พบเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสาร
23.45 น. ออกเดินทางสู่ แฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี โดยเที่ยวบินที่ TG 920 (ใช้เวลาเดินทาง 11 ชั่วโมง)
วัน ศุกร์ ที่ 28 ธ.ค.61
แฟรงค์เฟิร์ต (เยอรมนี) – ไฮเดลเบิร์ก – ปราสาทไฮเดลเบิร์ก – ชเปเยอร์ – สตราสบูร์ก (ฝรั่งเศส) (2)
06.00 น. เดินทางถึง สนามบินกรุงแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศ เยอรมนี นำท่านผ่านพิธีการศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง
เดินทางสู่เมือง ไฮเดลเบิร์ก HEIDELBERG (ระยะทาง 75 ก.ม./ 1 ชม.) เป็นเมืองที่แสดงความ เป็นตัวตนของความเป็นเยอรมันโรแมนติกได้ดีที่สุด ตั้งอยู่บนชายป่าโอเดนวาลด์ (ODENWALD MOUNTAIN CHAIN) ที่ซึ่งแม่น้ำเนคการ์ (NECKAR RIVER) ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำไรน์ (RHINE RIVER) และตัวเมืองตั้งเด่นเป็นตระหง่านอยู่บนเนินริมฝั่งแม่น้ำ ไฮเดลเบิร์กเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ของศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบโกธิคสมัยกลางและเคยถูกกองทัพฝรั่งเศสบุกเข้าทำลายเมื่อปี ค.ศ 1689 และในปีค.ศ 1693 นอกจากนั้นยังเป็นเมืองทางประวัติศาสตร์ของไทยเมืองหนึ่ง เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ทรงประสูติ ณ เมืองนี้ และอัลเบิร์ต ไอสไตน์ เคยมาเดินบนเส้นทางนักปราชญ์ของเมืองนี้แล้ว
นำท่านแวะชม ปราสาทไฮเดลเบิร์ก HEIDELBERG CASTLE ซึ่งในอดีตเป็นป้อมปราการ และต่อมาได้ถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นปราสาทเมื่อปีค.ศ 1544 แม้ปราสาทแห่งนี้จะเคยถูกเผาและทำลายไปบ้างในสมัยสงคราม แต่ก็ยังคงสภาพความสวยงามอยู่เหนือแม่น้ำเนคการ์ได้จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ อิสระให้ท่านตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามของปราสาท พร้อมชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำและเมืองไฮเดลเบิร์ก ซึ่งถือเป็นสถานที่ชมวิวที่สวยที่สุดที่ท่านไม่ควรพลาด ก่อนนำท่านสู่ ย่านเมืองเก่า นำท่านแวะบันทึกภาพกับ โบสถ์พระจิตอันบริสุทธิ์ Churh of Holy Spirit ที่ตั้งอยู่ใจกลางตลาดเมืองเก่า รายล้อมไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร บาร์ และแหล่งช้อ ปปิ้งเรียงราย นำท่านบันทึกภาพกับอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ สะพานเก่า Old Bridge หรือ สะพานคาร์ล ธีโอดอร์ อีกหนึ่งจุดชมวิวที่สามารถถ่ายภาพสวยของเมืองเก่าโดยมีปราสาทไฮเดลเบิร์กตั้งอยู่บนเนินเขา
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นเดินทางสู่เมือง ชเปเยอร์ Speyer (ระยะทาง 35 กม./ 30 นาที) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของของ รัฐไรน์ลันด์-พฟัลซ์ Rheinland-Pfalz หรือ ไรน์แลนด์-พาลาทิเนต Rhineland-Palatinate รัฐที่ตั้งอยู่ตรงใจกลางเทือกเขาซีเฟอร์เกเบียร์เก อีกหนึ่งดินแดนของเยอรมนีที่ถูกห้อมล้อมด้วยนิยายปรัมปราอันน่าหลงใหล และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเยอรมนีอีกด้วย นำท่าน เดินชม เมืองเก่าบริเวณ ถนน Maximilian สองฝั่งเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนอันเก่าแก่และเป็นเอกลักษณ์ ผ่านชม อาคารศาลากลาง อันสดใสที่เพิ่งบูรณะใหม่หลังจากโดนไฟไหม้เสียหายในปี ค.ศ. 1689 ก่อนนำท่าน บันทึกภาพ มหาวิหารชเปเยอร์ Speyer Cathedral มหาวิหารเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในใจกลางของตัวเมือง ชไปเออร์ และยังเป็นที่ฝังพระบรมศพของพระมหากษัตริย์เยอรมันและพระจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ 8 พระองค์ ซึ่งต่อมาองค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศให้มหาวิหารแห่งนี้เป็นมรดกโลกในปี 1981 อีกฝั่งปลายของถนนจะเป็น ประตูเมืองเก่า Old Gate เป็นประตูเมืองยุคกลางที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมือง อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในประตูเมืองเก่า ซึ่งเดิม คือ 68 ประตู ปัจจุบันประตูเมืองแห่งนี้ได้กลายเป็นเป็นหนึ่งในประตูเมืองเก่าที่ใหญ่ที่สุด (55 เมตร) ประตูนี้จะหันหน้าเข้าวิหารชเปเยอร์ ซึ่งถือเป็น จุดสิ้นสุดของถนน
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง สตราสบูร์ก Strasbourg (ระยะทาง 120 ก.ม./ 1.30 ชม.) เมืองมรดกโลกด้านมนุษยชาติขององค์การยูเนสโก เป็นเมืองหลวงแห่งแคว้นอัลซาส (Alsace) แห่งฝรั่งเศส เป็นเมืองที่เรียกได้ว่ามี 2 วัฒนธรรมคือ ฝรั่งเศสและเยอรมัน เนื่องจากผลัดกันอยู่ภายใต้การปกครองของ 2 ประเทศนี้สลับกันไปมา สตราสบูร์กเป็นเมืองใหญ่มีสถาปัตยกรรมสมัยโบราณเป็นร่องรอยประวัติศาสตร์ให้ชาวเมืองปัจจุบันได้ชื่นชม
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ Mercure Strasbourg Palais des Congres – France ****4ดาว
วัน เสาร์ ที่ 29 ธ.ค.61
หมู่บ้านฝรั่งเศสแสนสวย ( เกเซอร์สแบร์, ริคเวียร์, อองกีเชม) – กอลมาร์ – เดินเล่นชมเมือง (3)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
วันนี้เป็นวันท่องเที่ยวบรรดาหมู่บ้านฝรั่งเศส ที่ได้รับการขนานนามว่า Les Plus Beaux Villange de France หรือ หมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส ต้นแบบหมู่บ้านฝรั่งเศสที่หลายๆ ที่นำไปก่อสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยว วันนี้จะเที่ยวสบายๆ วิ่งรถไม่ไกล มีเวลาให้ท่านได้เดินอิ่มเอมกับความน่ารักของแต่ละหมู่บ้าน จากนั้นได้เวลานำท่านสู่ เมือง ริคเวีย (ระยะทาง 72 ก.ม./ 1.15 ชม.) เมืองที่ติดกับเมืองกอลมาร์ เป็นแหล่งปลูกไวน์ชั้นเลิศของ แคว้นอาลซาส และเป็นหนึ่งใน Les Plus Beaux Villange de France หรือ หมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก Unesco อีกด้วย นำท่านเดินชมบ้านเรือนที่อยู่ในหุบเขา ล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่นที่ไว้สำหรับทำไวน์ (โดยเฉพาะช่วงเดือน เม.ย – พ.ย. จะ เห็นต้นองุ่นที่ถูกปลูกสวยงามยิ่งนัก ท่านสามารถลิ้มลอง ชิมไวน์รสเลิศของแคว้นและซื้อเป็นของฝากคนทางบ้านตามอัธยาศัย) นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเกเชอร์สแบรก์ Kaysersberg (ระยะทาง 15 นาที) ดินแดนบนเชิงเขาโดยเอกลักษณ์ของเมืองสวยแห่งนี้ คือ บ้านเรือนเป็นแบบอนุรักษ์สไตล์“ทิมเบอร์ เฟรมเฮ้าส์” ซึ่งเป็นสไตล์ที่ใช้ไม้เป็นวัสดุสำคัญอีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงแห่งแรกๆในแควน้อัสซาสอีกดว้ย นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีศิลปะสถาปัตยกรรมออันหลากหลายยุคผสมผสานกันอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ ให้ท่านได้เยี่ยมชมและถ่ายภาพความสวยงามตามอัธยาศัย พลาดไม่ได้กับบ้านเรือนอันเป็นเอกลักษณ์มาก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านอองกีเชม EGUISHEIM (ระยะทาง 14 ก.ม./ 20 นาที) หมู่บ้านที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “อีกหนึ่งหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส” รวมทั้งเป็นหนึ่งในเส้นทางการชิมไวน์ทางตะวันออกของประเทศ อีกทั้งยังเป็นหมู่บ้านที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของแคว้นอัลซาสอีกด้วย นำท่านเดินชม ความงดงามไปตามถนนอันคดเคี้ยวของหมู่บ้าน ตื่นตาไปกับความงดงามของเหล่าอาคารบ้านเรือนที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นยุคกลางไว้เป็นอย่างดี ชมความเก่าแก่ของอาคารไม้โบราณที่แต่งแต้มด้วยสีสันสีสดใส และเดินลัดเลาะไปชมหมู่ดอกไม้หลากสีสันที่ออกดอกชูช่อตามระเบียงบ้าน เสมือนกับภาพวาดสีน้ำมันที่สดใสประดับประดาเมืองโรแมนติกแห่งนี้ได้อย่างดีเยี่ยม
นำท่านเดินทางสู่เมือง กอลมาร์ Colmar(ระยะทาง 7 ก.ม./ 10 นาที) เมืองเล็กๆอันเป็นเมืองบ้านเกิดของจิตรกร และช่างแกะพิมพ์มาร์ติน โชนเกาเออร์ และประติมากรเฟรเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดี ผู้ออกแบบอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ เป็นเมืองที่มีความโรแมนติก เมืองหนึ่งของฝรั่งเศส และเป็นสถานที่ที่คู่รักมักจะให้คำสัญญาในความรักระหว่างกันและกันด้วยบรรยากาศที่สวยงามสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่จึงทำให้เมืองกอลมาร์เป็นอีกหนึ่งในสถานที่โรแมนติกในฝันของใครอีกหลายคน นำท่าน ชมเมืองกอลมาร์ ดินแดนแห่งความงาม ที่มีตึกราบ้านช่องสวยงามมีจุดเด่นอยู่ที่ความงามของดอกไม้ ที่มีอยู่ทั่วเมือง จัดเป็นอีกเมืองที่ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติกจนได้รับการขนานนามว่า “ลิตเติ้ลเวนิซ” ปัจจุบันเมืองเก่าแก่แห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่น่ามาเยือนเป็นอันดับต้นๆของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมและบรรยากาศของเมืองโบราณ มีบ้านเรือนที่สวยงาม และได้รับการดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี บ้านเรือนแบบนี้ เรียกว่า Colombage (ฝรั่งเศส) หรือ Fachwerkhaus (เยอรมัน) อิสระท่านเดินพักผ่อน เก็บภาพความสวยงามของเมือง หรือจะเลือกชิลนั่งจิบกาแฟรับแสงแดดสูดอากาศอันสดชื่น ให้สมกับที่ท่านได้มาเยือนสถานที่อันโรแมนติกแห่งนี้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Holiday Inn Mulhouse – France ****4ดาว
วัน อาทิตย์ ที่ 30 ธ.ค.61
กรุงเบิร์น (สวิตเซอร์แลนด์) – ทะเลสาบมรกต Blausee – ชมย่านเมืองเก่า (4)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่ได้รับการยอมรับว่า เป็น 1 ในเรื่องภูมิประเทศที่งดงามที่สุด รถโค้ชจะนำท่านเดินทางผ่านเมืองชนบทน้อยใหญ่เข้าสู่บริเวณพรมแดนของสวิส และจะจอดให้ท่านได้กระทำการ ประทับตราศุลกากร Custom Stamp สำหรับท่านที่มีซื้อสินค้าก่อนหน้านี้และได้ซองภาษี Tax refund จากทางร้านค้ามา (สำหรับสินค้าที่จะซื้อในประเทศสวิส สามารถกระทำที่สนามบินวันสุดท้ายได้) นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น Berne (ระยะทาง 234 กม. / 3.30 ชม.) นครหลวงอันเก่าแก่ของสวิตเซอร์แลนด์ เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงสวยงามเป็นอย่างยิ่งจนได้รับการอนุรักษ์ และประกาศให้เป็น “มรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้” ตั้งอยู่เนินเขา ซึ่งที่จุดนี้สามารถชมทิวทัศน์ของตัวเมืองเก่าได้ในมุมกว้าง
จากนั้นนำท่านสู่ ทะเลสาบบลาวซี Blausee (ระยะทาง 54 ก.ม./ 1 ชม.) ทะเลสาบน้ำใสสีเทอควอยซ์ จุดเด่นของทะเลสาบเล็กอันนี้คือความสวยใสถึงขนาดเห็นปลาเทราซ์ของบ่อน้ำแห่งนี้ ทางเอกชนได้เพาะพันธ์ปลาไว้และเปิดให้นักตกปลาได้เข้ามาตกได้ ก่อนเดินทางต่อสู่เมือง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น Berne (ระยะทาง 54 กม. / 1 ชม.) จากนั้นเที่ยวชม เบเร็นกราเบ็นหรือบ่อหมี สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง เดินทางเข้าสู่ย่าน มาร์คกาสเซ ย่านเมืองเก่า ซึ่งปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และร้านบูทีค นำชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี เข้าสู่ถนนครัมกาสเซ เต็มไปด้วยร้านภาพวาด และร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ นำคณะชม นาฬิกาไซ้ท์ กล็อคเค่น อายุกว่า 800 ปี ที่มีโชว์ให้ดูทุกๆชั่วโมงที่นาฬิกาตีบอกเวลา และกรุงเบิร์นยังเป็นเมืองที่มีน้ำพุ มากที่สุดเมืองหนึ่งในยุโรป
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ Allego Bern, Switzerland ****4ดาว
วัน จันทร์ ที่ 31 ธ.ค.61
สถานีรถไฟกรินเดลวาลด์ – นั่งรถไฟฟันเฟือง – ยอดเขาจุงเฟรา Top of Europe – ลูเซิร์น (5)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาลด์ จุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวยอดเขาจุงเฟรา ในปี 2001 UNESCO ประกาศให้ยอดเขาจุงเฟรา เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป นำท่าน สัมผัสกับประสบการณ์นั่งรถไฟฟันเฟือง ผ่านชมแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติของ JUNGFRAUBAHN ขึ้นพิชิตยอดเขาจุงเฟราที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุต ซึ่งได้ รับการยกย่องว่าเป็น TOP OF EUROPE ระหว่างเส้นทางนำท่านสู่ยอดเขา แวะชมกลาเซียร์ หรือ ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ จนถึงสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป บนสถานีปลายทาง จุงฟราวบาห์น นำคณะ เพลิดเพลินและสนุกสนานไปกับการเล่นหิมะในลานกว้าง จุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรป มองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร ชมถ้ำน้ำแข็ง ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Aletsch ที่ ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ยาวถึง 22 ก.ม. และหนา 700 เมตรโดยไม่เคย ละลาย อิสระให้ท่านได้สนุกสนานและเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนยอดเขาจุงเฟรา และ ไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ด โดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป
หมายเหตุ การพิชิตยอดเขาจุงเฟรา เวลาอยู่ข้างบนยอดเขา ท่านอาจจะเหนื่อยและเพลียมากกว่าปกติ ด้วยสภาพอากาศที่น้อย พยายามอย่าออกแรงเยอะ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านลงจากเขาโดยรถไฟฟันเฟือง แล้วนำท่านขึ้นรถโค้ชคันเดิมเพื่อเดินทางต่อสู่เมือง ลูเซิร์น Luzern (ระยะทาง 70 กม./ 1 ชม.) ซึ่งเป็นอดีตหัวเมืองโบราณของสวิสเซอร์แลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า “หลังคาแห่งทวีปยุโรป” (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมี ภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม สำหรับเลี้ยงสัตว์ และเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่านักท่องเที่ยวบันทึกภาพไว้มากที่สุด
พาท่านชม สิงโตหินแกะสลัก Dying Lion of Lucerne บนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่ างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ผ่านชม สะพานไม้ชาเปล Chapel Bridge ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิสตลอดแนวสะพาน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ Radisson Blu Lucerne – Switzerland ***4ดาว
วัน อังคาร ที่ 01 ม.ค.62
แซงค์ กัลเลน – รถไฟสาย Appenzeller – หมู่บ้านอัพเพนเซล – ลินเดา – ฟุสเซ่น (เยอรมนี) (6)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ขอสวัสดีปีใหม่ 2562 และขออวยพรให้ท่านมีความสุขสดชื่นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะกับการเดินทางทริปนี้ครับ
จากนั้นนั่งรถโค้ชเข้าสู่เมือง แซงค์ กัลเลน St.Gallen (ระยะทาง 145 กม./ 1.45 นาที) อีก 1 เมืองสวยของสวิตเซอร์แลนด์ที่ มีโบสถ์สไตล์บาร็อค แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองและมีความสําคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป วิจิตรตระการตาไปด้วยงานศิลปะที่รวบรวมช่างทุกแขนงมาสร้างสรรค์ผลงานอันเป็นที่มาของงานศิลปะบริสุทธิ์มากมายซึ่งมีต้นกําเนิดมาจากสถานที่แห่งนี้ นอกจากนี้อิทธิพลแบบบาร็อคยังคงเห็นได้เด่นชัดจากอาคาร บ้านเรือน ที่ตกแต่งด้านหน้าอย่างวิจิตรบรรจง อิสระให้ท่านได้ชมความงดงามของบ้านเรือนที่เป็นเอกลักษณ์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
สมควรแก่เวลานำท่านสู่ สถานีรถไฟ เพื่อนำท่าน นั่งรถไฟสาย Appenzeller Bahn รถไฟเส้นทางชนบทที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1904 วิ่งจากเมืองแซงค์กัลป์เลนสู่เมือง อัพเพนเซล Appenzell เมืองแห่งกระดิ่งวัว, ชีส และขนมบีเบอร์ (Biber) รถไฟจะลัดเลาะเข้าสู่เส้นทางสายชนบท ผ่านทุ่งหญ้าที่จะเขียวขจีในยามหน้าร้อนและขาวโพลนในฤดูหนาว ผ่านบ้านเรือนชาเล่ต์แบบสวิสแสนน่ารัก ถือเป็นอีก 1 เส้นทางรถไฟที่สวยมากในสวิตเซอร์แลนด์ Unseen / รถไฟเทียบชานชลา อัพเพนเซล
อิสระให้ท่านได้เดินเล่น ชมความงดงามของเมืองเล็กๆกลางหุบเขาแสนน่ารักแห่งนี้ บริเวณถนนเมืองเก่าหน้าสถานีรถไฟจะมีร้านต่างๆ อาทิ ร้านขายชีส, ร้านขายขนมบีเบอร์ หรือร้านขายเสื้อผ้าพื้นเมือง ที่เค้าว่ากันว่า เสื้อประจำชาติพื้นเมืองชาวสวิสคิดค้นขึ้นที่เมืองนี้ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ฟุสเซ่น Fussen (ระยะทาง 100 ก.ม. / 1.30 ช.ม.) เมืองสุดท้ายบนถนนสายโรแมนติก ซึ่งเคยมีความรุ่งเรืองในอดีตตั้งแต่ยุคโรมันใช้เมืองนี้เป็นจุดแวะพักขนถ่ายสินค้าและซื้อขายเกลือมาแต่โบราณ โดยปัจจุบันบรรยากาศตัวเมืองมีบรรยากาศที่แสนจะน่ารัก มีร้านอาหาร, โรงแรมที่พัก ตลอดจนร้านขายของที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ Hirsch Hotel – Fussen, Germany ****4ดาว
วัน พุธ ที่ 02 ม.ค. 62
ชวานเกา – ปราสาทนอยชวานสไตนน์ – อินสบรูกก์ (ออสเตรีย) – หลังคาทองคำ – เดินเล่นย่านเมืองเก่า (7)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นเดินทางสู่ หมู่บ้านชวานสเกา (ระยะทาง 104 กม./ 1.45 ชม.) นำท่าน ขึ้นชม ปราสาทนอยชวานสไตน์ ของกษัตริย์ลุดวิคที่สองแห่งบาวาเรีย ทรงได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างปราสาท จากความหลงใหลในการแสดงอุปรากร ต่อมาปราสาทนอยชวานสไตน์ ก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบฉากบัลเล่ต์และละครอีกนับร้อย ๆ เรื่อง ปราสาทนี้เป็นเหมือนปราสาทในเทพนิยายที่มีมนต์เสน่ห์ที่สุดในโลกและเป็นแบบจำลองให้วอลท์ ดิสนีย์ นำไปสร้างเป็นปราสาทของเจ้าหญิงในภาพยนตร์เรื่องเจ้าหญิงนิทรา ปราสาทเทพนิยายนอยชวานสไตน์ นี้ตั้งอยู่เหนือโกรกธารขรุขระของแม่น้ำพอลแล็กในเทือกเขาแอลป์ เป็นปราสาททรงเสน่ห์ที่มีมนต์ขลังที่สุดในโลก หอคอยสีง าช้างของปราสาทดูลอยเด่นอยู่กลางป่าสนเขียวขจี กำเนิดขึ้นจากความฝันของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 เพียงพระองค์เดียว ผู้ทรงบันดาลให้เป็นจริงด้วยพระราชทรัพย์อันมหาศาล
นำท่านสู่ จุดชมวิวถ่ายรูปปราสาททั้งหลัง แล้วเดินชมความร่มรื่นของแนวป่าสนสู่ตัวปราสาท แล้ว นำเข้าชมความวิจิตรพิศดารของตัวปราสาทภายใน ที่พระองค์ทุ่มเทพระราชทรัพย์เพื่อเนรมิตฝันให้เป็นจริง ชมผลงานชิ้นเอกของจิตรกร ประติมากร และช่างแกะไม้ฝีมือเยี่ยม นำชมห้องบัลลังก์ ห้องบรรทม ห้องทรงดนตรีโอเปร่า ถ้ำแห่งวีนัส ท้องพระโรง และห้องครัวที่ทันสมัยที่สุดในยุคนั้น จากนั้นกลับลงสู่เชิงเขา
หมายเหตุ รถ Shuttle Bus ที่วิ่งรับ-ส่งนักท่องเที่ยวขึ้นลงปราสาท อาจมีหยุดให้บริการในช่วงฤดูหนาวหรือวันหิมะตก หากรถบัสไม่วิ่ง จะเปลี่ยนพาท่านขึ้นโดย นั่งรถม้า (นั่งได้ 8-12 คน และ รวมอยู่ในค่าบริการ เฉพาะขาขึ้นเท่านั้น) ท่านอาจจำเป็นต้องเดินขึ้นปราสาท ในกรณีที่คิวรถม้าค่อนข้างยาวซึ่งอาจมีผลทำให้ไม่ทันรอบเวลาเข้าปราสาท หากท่านไหนสละสิทธิ์ไม่เข้าปราสาท ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินทุกรณี (ระยะทางเดินขึ้นเขาใช้เวลาเดินประมาณ 25 – 30 นาที)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง อินสบรูกก์ Innsbruck (ระยะทาง 113 ก.ม./ 1.45 ชม.) หนึ่งในสามเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย (อีกสองแห่งคือเวียนนาและซาลส์บวร์ก) ตัวเมืองตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน มีลักษณะเป็นที่ราบแคบแทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์ เดิมทีเมืองนี้เป็นเมืองตากอากาศของจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนแห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์ก เนื่องด้วยเพราะสภาพอากาศที่ดีตลอดปี เป็นเหตุให้ผู้ที่ได้เข้ามาปกครองออสเตรียต่างติดใจมาพักผ่อนในเมืองแห่งนี้ อาทิเช่น พระนางมาเรีย เทเรเซีย หรือแม้แต่ นโปเลียน โบนาปาร์ต ยังชอบมาพำนักที่เมืองนี้
นำท่านชมย่านเมืองเก่า ที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม ชม โกลเด้นรูฟ หรือ หลังคาทองคำ ที่มีชื่อเสียง สัญลักษณ์สำคัญของเมืองเก่าในนครอินซ์บรูค ก่อสร้างเมื่อศตวรรษที่ 15 ด้วยศิลปะสไตล์โกธิกผสมบาโร๊ค โดยส่วนของหลังคาที่ยื่นออกมาจากระเบียงก่อสร้างด้วยทองคำแท้ จำนวน 2,738 แผ่น ปัจจุบันโกลเด้นรูฟถูกใช้เป็นสำนักงานการประชุมอัลไพน์นานาชาติ ก่อนมีเวลา อิสระให้ท่านเดินเล่น ณ ย่านเมืองเก่า ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าต่างๆบริเวณร้านค้าในเมืองเก่า อาทิ คริสตัลชวารอฟสกี้ แท้ๆของประเทศออสเตรีย ตัวโรงงานใหญ่ก็ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองอินสบรูกก์, ร้านนาฬิกาแบนด์ชั้นนำต่างๆ, ร้านขายของที่ระลึก และร้านเสื้อผ้าแฟชั่น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ Grauer Bar – Austria ****4ดาว
วัน พฤหัสฯ ที่ 03 ม.ค.62
เบิร์ชเทสการ์เด้น – ล่องเรือทะเลสาบโคนิก (น้ำใสที่สุดในเยอรมนี) – หมู่บ้านฮัลสตัทท์ Unesco (พัก 1 คืน)(8)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมือง เบิร์ชเทสการ์เด้น Berchtesgarden (ระยะทาง 155 ก.ม./ 1.45 ชม.) เมืองแห่งศูนย์กลางของเส้นทางการค้าขายพวกแรเกลือมาตั้งแต่ในสมัยอดีต นำท่าน ล่องเรือ ชมทะเลสาบโคนิกส์เซ่KONIGSSEE LAKE หรือ ทะเลสาบกษัตริย์ Königssee เป็นทะเลสาบในหุบเขาของเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้เมืองเบิร์ชเทสการ์เด้น เป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงชัน นอกจากนั้นยังเป็นทะเลสาบที่ใสที่สุด สะอาดที่สุด และอยู่สูงที่สุดในประเทศเยอรมนี ด้วยเหตุนี้เองจึงอนุญาตให้เฉพาะเรือพายและเรือที่ใช้ไฟฟ้าเท่านั้น สามารถแล่นไปมาในทะเลสาบได้ อิสระท่านชมความงดงามของทิวทัศน์รอบๆ ทะเลสาบ โดยมีวิวของภูเขาเจนเนอร์ (JENNER MOUNTAIN) ภูเขาที่มีความสูงประมาณ 1,874 เมตร และ โบสถ์รูปทรงหัวหอม (St.Bartholomew) อันโด่งดัง จนได้เวลาสมควร นำท่านล่องเรือกลับสู่ฝั่ง
หมายเหตุ เรืออาจปิดบริการ หากวันนั้นสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย หรือมีเหตุจำเป็น
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่เมือง ฮัลสตัทท์ Hallstatt (ระยะทาง 80 ก.ม./ 1.15 ชม.) เมืองมรดกโลกเก่าแก่อายุกว่า 4,000 ปี ซึ่งมีทิวทัศน์ที่สวยงามยิ่งและดึงดูดนักเดินทางมากมายให้มายังเมืองนี้ ตัวหมู่บ้านฮัลสตัทท์เป็นเมืองเล็กๆริมทะเลสาบ มีประชากรอาศัยไม่ถึง 1,000 คน มีฉากหลังเป็นภูเขาสูงชัน บ้านเรือนในเมืองนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่แคบๆ ริมทะเลสาบ Halls tatter Sea จึงต้องสร้างลดหลั่นเป็นชั้นๆ ตามแนวเขา วันนี้เราอาจจะเดินทางมาถึงหมู่บ้านฮัลสตัทท์ในช่วงเย็น ไม่ต้องกังวลว่าจะมีเวลาน้อยในการชื่นชมความสวยงาม เพราะวันรุ่งขึ้นเรามีเวลาให้ถึง “ครึ่งวันเช้า” ท่านจะได้มีเวลาชมหมู่บ้านแสนสวยแห่งนี้แบบ “เต็มอิ่ม”
หมายเหตุ การเดินเข้าไปยังหมู่บ้านฮัลสตัทท์ ระยะทางเดินประมาณ 650 – 700 เมตร รถใหญ่ไม่สามารถเข้าได้ ต้องจอดที่จุดจอดรถด้านหน้าหมู่บ้านที่เดียว ต้องขออภัยในความไม่สะดวก แต่รับรองว่าท่านจะประทับใจกับความสวยของหมู่บ้านแห่งนี้อย่างใกล้ชิดแน่นอน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ Heritage Hallstatt เที่ยวกับเพอร์เฟคแพลน ต้องพักในฮัลสตัทท์เท่านั้น
หมายเหตุ กรุณาจัดเตรียมสัมภาระสำหรับพักค้างคืนในหมู่บ้านฮัลสตัทท์ 1 คืน แยกใส่กระเป๋าใบเล็ก เพื่อความสะดวกในการเข้าพัก ส่วนกระเป๋าใหญ่จะเก็บไว้ใต้ท้องรถ ***
วัน ศุกร์ ที่ 04 ม.ค.62
ชมหมู่บ้านฮัลสตัทท์ – มิวนิค – จตุรัสมาเรียนพลาส (9)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
อิสระท่านในช่วงเช้า ยังมีเวลาให้ท่านได้เก็บภาพของหมู่บ้านฮัลสตัทท์ แบบเต็มอิ่ม บรรยากาศของแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า จะสวยมากเป็นพิเศษ และจุดหมายต่อไปอย่างเมืองมิวนิคก็เดินทางไม่ไกลมาก นำท่านเดินเล่นเที่ยวชมเมือง ฮัลสตัทและบรรยากาศริมทะเลสาบ Halls tatter Sea จากนั้น อิสระเวลาให้แก่ท่าน เพื่อเก็บภาพความสวยงามและบรรยากาศอันสุดแสนโรแมนติกของเมืองฮัลสตรัทแห่งนี้อย่างเต็มอิ่มแน่นอนหมู่บ้านแห่งนี้มีมุมสวยๆเยอะมาก นอกจากมุม “มหาชน” ที่นักท่องเที่ยวเดินไปถ่ายรูปกัน
หมายเหตุ หมู่บ้านแห่งนี้มีมุมสวยๆ เยอะมาก นอกจากมุม “มหาชน” ที่นักท่องเที่ยวเดินไปถ่ายรูปกัน แนะนำ!! ให้ท่านลองเดินหาขึ้นไปทางบริเวณด้านบนของหมู่บ้าน แล้วท่านจะได้เห็นวิวที่แตกต่าง เดินไม่ยากเข้าตามซอยมีทั้งทางลาดและบันได ขอความกรุณาท่านอย่าส่งเสียงดังเวลาถ่ายรูป เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนชาวบ้านอาศัยอยู่
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นเดินทางสู่ มิวนิค MUNICH (ระยะทาง 207 ก.ม./ 3 ชม.) มหานครแห่งแคว้นทางตอนใต้ เป็นเมือง ที่มีบรรยากาศรื่นรมย์และเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่สวยงามมากมาย อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของภูมิภาคและเป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์ที่เด่นที่สุดในประเทศเยอรมนีอีกหลายแห่ง นำท่านเดินทานำท่าน ผ่านชม ย่านสำคัญๆ ผ่านชม บริเวณ สนามกีฬาโอลิมปิค ที่มิวนิคได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพเมื่อปี ค.ศ.1972 นำท่านสู่บริเวณ จตุรัสมาเรียน MARIEN PLATZ ย่านเมืองเก่าที่มีสถาปัตยกรรมอันเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของมิวนิค เช่น ศาลาว่าการเก่าในรูปแบบศิลปะโกธิค สร้างเมื่อปี ค.ศ.1867-1908 ซึ่งมีหอระฆังอันมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ตั้งอยู่ตัวหอคอย มีความสูงถึง 278 ฟุต, หอคอยของโบสถ์แม่พระที่มีรูปแบบคล้ายหัวหอมใหญ่
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่ Sheraton Muenchen Westpark – Munich, Germany ****4ดาว
วัน เสาร์ ที่ 05 ม.ค.62
สนามบินมิวนิค – กรุงเทพฯ (10)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
09.00 น. เดินทางสู่สนามบิน มิวนิค เผื่อเวลาให้ท่านกระทำภาษีคืน TAX REFUND (ระยะทาง 38 ก.ม./ 40 นาที)
14.25 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ TG 925
วัน อาทิตย์ ที่ 06 ม.ค.62
กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) (11)
06.05 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารชั้น 2 โดยสวัสดิภาพและมีความสุข
*************************
อัตราค่าบริการ ทัวร์ยุโรป One for All เยอรมัน ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย 11 วัน (WE-10A) |
|||||
วันเดินทาง | ราคาผู้ใหญ่
ห้องพักคู่ 2 ท่าน |
ราคาเด็ก*
พักห้อง 1 เด็ก+1 ผู้ใหญ่ |
ราคาเด็ก*
1 เด็ก+ 2 ผู้ใหญ่ (เสริมเตียง) |
ราคาเด็ก**
1 เด็ก + 2 ผู้ใหญ่ (ไม่เสริมเตียง) |
พักเดี่ยวเพิ่ม |
27 ธ.ค. – 06 ม.ค. 2562
Happy New Year 2019 |
122,900 |
122,900 |
119,900 | 118,900 | 16,900 |
หมายเหตุ : เด็กต้องมีอายุ 2-12 ปี บริบูรณ์ // เด็กอายุ 5-12 ปี โรงแรมในยุโรปจะบังคับเสริมเตียง
อัตรานี้รวม
- ตั๋วเครื่องบินไป – กลับ (ชั้น ECONOMY) ตามเส้นทางและสายการบินที่รายการระบุไว้
- ภาษีสนามบินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและปลายทางต่างประเทศ
- ค่าที่พัก พร้อมอาหารเช้า (ห้องละ 2 ท่าน) ในระดับดาวมาตรฐานตามโรงแรมที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า หากวันเข้าพักตรงกับช่วงเทศกาลหรืองานจัดแสดงสินค้า อาจมีการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมือง แต่จะคำนึงถึงเส้นทางและความสำคัญของลูกค้าเป็นหลัก
- ค่าอาหารทุกมื้อตามที่ระบุในรายการ
- ค่ารถโค้ชปรับอากาศ ขนาด 49 ที่นั่ง นำเที่ยวตามสถานที่ระบุในรายการ
- ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆตามที่ระบุในรายการ
- ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท ซึ่งเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี และผู้ใหญ่อายุเกิน 75 ปีได้รับความคุ้มครองเพียง 50% ของวงเงินประกัน
- หัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์ อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
- ค่าธรรมเนียมวีซ่าเชงเก้น ระยะเวลาตามวันที่ระบุในรายการ
- ค่าธรรมเนียมทิป คนขับรถต่างประเทศ
อัตรานี้ไม่รวม
- ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 % และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % กรณีออกใบกำกับภาษี
- ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ / ค่าซักรีด / ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น
- ค่าพนักงานยกกระเป๋า ขอเรียนให้ท่านทราบว่า กรณีไม่มีบริการยกกระเป๋า ท่านผู้เดินทางทุกท่านจะต้องดูแลทรัพย์สินของท่านด้วยตนเอง
- ค่าธรรมเนียมทิป หัวหน้าทัวร์ (ตามอัธยาศัย) ปกติท่านละ 25 ยูโร
- ค่าปรับน้ำหนักกระเป๋าที่เกินกว่าที่ทางสายการบินกำหนด
เงือนไขการจองทัวร์
- กรุณาชำระมัดจำท่านละ 40,000 บาท ภายใน 2 วัน จากวันจอง โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
- ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน
- เมื่อได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ว่าให้จัดเตรียมเอกสารขอวีซ่าได้ ท่านสามารถจัดเตรียมเอกสารขอวีซ่าได้ทันที
- หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
- การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะ และยื่นรายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่
- หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด
เงื่อนไขการชำระเงินส่วนที่เหลือ
- ส่วนที่เหลือชำระก่อนเดินทาง 20 วัน หรือเมื่อทางสายการบินมีการเรียกออกตั๋ว โดยทางบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าก่อนจะมีการเรียกเก็บเงิน
- หากท่านไม่ผ่านการอนุมัติวีซ่า ทางบริษัทฯ ขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ช่น ค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า / ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน / ค่าตั๋วเครื่องบิน (กรณีออกตั๋วเครื่องบินแล้ว) ทางบริษัทฯ จะทำการ Refund กับทางสายการบิน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3- 6 เดือนเป็นอย่างน้อย และขึ้นอยู่กับ Condition ของทางสายการบิน / ค่าส่วนต่างในกรณีที่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ครบตามจำนวน
เงื่อนไขการยกเลิกและการปรับเงินค่าบริการ
- ยกเลิกหลังการจอง ปรับเงินทันที 1,000 บาท (คิดเป็นค่าบริการของพนักงาน)
- ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30-45 วัน หักค่ามัดจำ 50% ของเงินมัดจำ + ค่าวีซ่า
- ยกเลิกก่อนการเดินทาง 15-30 วัน หักค่าใช้จ่าย 100% ของเงินมัดจำ
- ยกเลิกการเดินทาง 1-15 วัน หักค่าใช้จ่าย 100% ของราคาทัวร์
- หากมีการออกตั๋วเครื่องบิน หรือจองโรงแรมไปแล้ว ทางบริษัทฯ จะคิดค่าบริการตามจริง
- กรณีเจ็บป่วย จนไม่สามารถเดินทางได้ ท่านต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง บริษัทฯ จะส่งเรื่องขอ Refund เฉพาะค่าตั๋วเครื่องบินกับทางสายการบิน โดยดุลยพินิจขึ้นอยู่กับทางสายการบินเท่านั้น หรือ หากท่านต้องการเลื่อนการเดินทางของท่านไปยังคณะต่อไป ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ที่ไม่สามารถเรียกคืนได้ จากคณะทัวร์เดิมที่ท่านไม่ได้เดินทาง คือ ค่าธรรมเนียมในการมัดจำตั๋ว และค่าธรรมเนียมวีซ่าตามที่สถานทูตฯ เรียกเก็บ
- กรณียื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่าจากทางสถานทูต (วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าทัวร์ หรือมัดจำมาแล้ว ทางบริษัทฯ ขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า / ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน / ค่าตั๋วเครื่องบิน (กรณีออกตั๋วเครื่องบินแล้ว) ทางบริษัทฯ จะทำการ Refund กับทางสายการบิน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3- 6 เดือนเป็นอย่างน้อย และขึ้นอยู่กับ Condition ของทางสายการบิน / ค่าส่วนต่างในกรณีที่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ครบตามจำนวน
- กรณีวีซ่าผ่านแล้ว แจ้งยกเลิกก่อน หรือหลังออกตั๋วโดยสาร บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
เอกสารประกอบการขอวีซ่าเชงเก้น
หนังสือเดินทาง (เล่มจริง) ที่ยังมีอายุการใช้งาน และโปรดตรวจสอบว่าหนังสือเดินทางของท่าน
- มีอายุใช้งานไม่ต่ำกว่า 6 เดือน โดยนับจากวันหมดอายุของหนังสือเดินทาง จนถึงวันที่เดินทางออกนอกประเทศสมาชิกเชงเก้น
- มีหน้าว่างอย่างน้อย 4 หน้า
- หากท่านเคยมีเชงเก้นวีซ่า อยู่ในหนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาประกอบด้วย
- รูปถ่าย จำนวน 2 รูป ขนาด 3.5 cm x 4.5 cm พื้นหลังสีขาวเท่านั้น (ห้าม สวมแว่นตา, ห้าม ใช้รูปรับปริญญา, ห้าม ใช้รูปใส่ชุดครุย, ห้าม ใช้รูปชุดราชการ, ห้าม ยิ้มเห็นฟัน)
- เอกสารส่วนตัว (กรุณาเตรียมให้ครบถ้วน)
3.1 สำเนาทะเบียนบ้าน
3.2 สำเนาบัตรประชาชน
3.3 สำเนาหนังสือสำคัญการเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล (กรณีเคยเปลี่ยนชื่อ-สกุล ต้องนำมาแสดงด้วย)
3.4 สำเนาทะเบียนสมรส (กรณีแต่งงานจดทะเบียนสมรส ต้องนำมาแสดงด้วย)
3.5 สำเนาใบหย่า (กรณีเคยหย่า ต้องนำมาแสดงด้วย)
3.6 สำเนาใบมรณะบัตร (กรณีที่คู่สมรสเสียชีวิต ต้องนำมาแสดงด้วย)
- สำเนาสูติบัตร (กรณีอายุต่ำกว่า 20 ปี)
- กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ไม่ได้เดินทางพร้อม พ่อและแม่ ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
- เด็กเดินทางกับบุคคลอื่น : บิดาและมารดา ต้องไปทำหนังสือแสดงความยินยอม เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ณ ที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น โดยให้ระบุว่า ยินยอมให้เด็กเดินทางกับใคร (ระบุชื่อ-นามสกุล โดยต้องสะกดชื่อให้ถูกต้องตามหนังสือเดินทาง) มีความสัมพันธ์อย่างไรกับครอบครัว
- เด็กเดินทางกับบิดา : มารดา ต้องไปทำหนังสือแสดงความยินยอม เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ณ ที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น โดยให้ระบุว่า มารดายินยอมให้เด็กเดินทางกับบิดา (ระบุชื่อ-นามสกุลบิดา โดยต้องสะกดชื่อให้ถูกต้องตามหนังสือเดินทาง)
- เด็กเดินทางกับมารดา : บิดา ต้องไปทำหนังสือแสดงความยินยอม เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ณ ที่ว่าการเขตหรืออำเภอเท่านั้น โดยให้ระบุว่า บิดายินยอมให้เด็กเดินทางกับมารดา (ระบุชื่อ-สกุลมารดา โดยต้องสะกดชื่อให้ถูกต้องตามหนังสือเดินทาง)
- หลักฐานการทำงาน / หลักฐานการศึกษา
- กรณีเป็นพนักงานหรือลูกจ้าง ข้าราชการ / เอกชน / รัฐวิสาหกิจ : ให้ขอจดหมายรับรองการทำงาน เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น จากหน่วยงาน หรือบริษัทของท่าน
*** ระบุ TO WHOM IT MAY CONCERN (ไม่ต้องระบุสถานทูต และประเทศเพื่อป้องกันการสะกดผิด) ให้ระบุว่าเดินทางไปยุโรป
*** ระบุ ชื่อ-นามสกุล , วันที่เริ่มทำงาน , ตำแหน่งปัจจุบัน , อัตราเงินเดือน
*** จดหมายมีอายุไม่เกิน 1 เดือน นับจากวันที่ออกจดหมาย จนถึงวันยื่นวีซ่า
- กรณีเป็นเจ้าของกิจการ ที่มีการจดทะเบียนบริษัท : ใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท ที่คัดมาไม่เกิน 90 วัน หรือ สำเนาใบจดทะเบียนการค้า พร้อมเซ็นชื่อรับรองสำเนา
- กรณีประกอบอาชีพอิสระ : ให้ทำจดหมายชี้แจงตนเองเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ชี้แจงว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร ร้านค้าตั้งอยู่ที่ใด เปิดดำเนินการมาแล้วกี่ปี มีรายได้ต่อเดือน / ต่อปีเท่าไหร่ (หากมีการเสียภาษี ให้แนบสำเนาเอกสารเกี่ยวกับการเสียภาษีมาด้วย)
- กรณีเป็นนักเรียน – นักศึกษา : ให้ขอหนังสือรับรองจากสถาบันการศึกษาเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ระบุชั้นปีที่กำลังศึกษา และ คณะสาขา *** จดหมายมีอายุไม่เกิน 1 เดือน นับจากวันที่ออกจดหมาย จนถึงวันยื่นวีซ่า
- หลักฐานการเงิน *** สถานทูตพิจารณา บัญชีออมทรัพย์เท่านั้น ***
5.1 รายการเดินบัญชีออมทรัพย์ (Bank Statement) ต้องขอจากทางธนาคาร และจะต้องมีชื่อเจ้าของบัญชีระบุทุกหน้า แสดงการเคลื่อนไหวทางด้านการเงินย้อนหลัง 6 เดือน และต้องอัพเดตให้เป็นเดือนเดียวกับที่ไปขอวีซ่า เช่น ท่านยื่นวีซ่าเดือนมกราคม จะต้องอัพเดตยอดสุดท้ายให้ถึงเดือนมกราคม เป็นต้น โดยยอดเงินคงเหลือในบัญชี ควรมีอย่างน้อย 80,000 – 100,000 บาท
5.2 หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank guarantee หรือ Bank certificate) ของบัญชีออมทรัพย์ (Saving account) ซึ่งเป็นบัญชีเดียวกันกับที่ขอ Bank Statement ออกโดยธนาคารเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ระบุชื่อ-สกุล เจ้าของบัญชีให้ถูกต้องตามหน้าพาสปอร์ต *** เอกสารนี้มีอายุไม่เกิน 15 วัน นับจากวันที่ออกเอกสาร จนถึงวันที่ยื่นวีซ่า
5.3 ก่อนถึงวันยื่นวีซ่า 3-5 วัน นำสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ไปอัพเดทเพื่อให้มีความเคลื่อนไหว โดยการฝาก หรือ ถอนเงิน 100 บาท เป็นต้น และ ในวันยื่นวีซ่าให้นำสมุดบัญชีติดไปด้วย เผื่อไว้ในกรณีเจ้าหน้าของสถานฑูตเรียกดู
- การรับรองค่าใช้จ่ายให้บุคคลในครอบครัว (บุคคลที่สามารถรับรองค่าใช้จ่ายได้ ต้องเป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง ที่สามารถสืบความสัมพันธ์กันได้ หรือ สามี ภรรยา เท่านั้น) ขอเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้
6.1 ผู้เดินทางที่มีงานทำแล้ว – จนถึงวัยเกษียณ ที่มีบัญชีออมทรัพย์ จะต้องแสดง รายการเดินบัญชีออมทรัพย์ (Bank Statement) ที่ขอจากทางธนาคาร และต้องมีชื่อเจ้าของบัญชีระบุทุกหน้า แสดงการเคลื่อนไหวทางด้านการเงินย้อนหลัง 6 เดือน และต้องอัพเดตให้เป็นเดือนเดียวกับที่ไปขอวีซ่า เช่น ท่านยื่นวีซ่าเดือนมกราคม จะต้องอัพเดตยอดสุดท้ายให้ถึงเดือนมกราคม เป็นต้น โดยยอดเงินคงเหลือในบัญชีมีอยู่ไม่มาก ก็ไม่เป็นไร เนื่องจากทางสถานทูต จะดูยอดเงินของบุคคลที่รับรอง
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ท่าน เป็นหลัก
6.2 กรณีบุคคลที่สามารถรับรองค่าใช้จ่ายเดินทางไปด้วยกัน ขอเอกสารเพิ่มเติม คือ หนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank guarantee หรือ Bank certificate) เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ซึ่งเป็นบัญชีเดียวกันกับที่ขอ Bank Statement โดยให้บุคคลที่สามารถรับรองค่าใช้จ่าย เป็นผู้ไปขอจากทางธนาคาร ขอให้ ตนเอง 1 ฉบับ และ บุคคลที่ถูกรับรองค่าใช้จ่ายอีก 1 ฉบับ ดังนี้
- สำหรรับบุคคลที่สามารถรับรองค่าใช้จ่าย (เจ้าของบัญชี) ระบุชื่อ-สกุล ให้ถูกต้องตามหน้าพาสปอร์ต *** เอกสารนี้มีอายุไม่เกิน 15 วัน นับจากวันที่ออกเอกสาร จนถึงวันที่ยื่นวีซ่า
- สำหรับบุคคลที่ถูกรับรองค่าใช้จ่าย ให้ระบุชื่อ-สกุล ของทั้งคู่ในเอกสาร คือ ระบุชื่อ-สกุล บุคคลที่สามารถรับรอง ค่าใช้จ่าย (เจ้าของบัญชี) และ ระบุชื่อ-สกุล บุคคลที่ถูกรับรองค่าใช้จ่าย และต้องสะกดชื่อ-สกุล ให้ถูกต้องตามหน้าพาสปอร์ต *** เอกสารนี้มีอายุไม่เกิน 15 วัน นับจากวันที่ออกเอกสาร จนถึงวันที่ยื่นวีซ่า
- กรณีบุคคลที่สามารถรับรองค่าใช้จ่าย ไม่ได้เดินทางไปด้วย ขอเอกสารเพิ่มเติม คือ
- สำเนาทะเบียนบ้าน (ของบุคคลที่สามารถรับรองค่าใช้จ่าย)
- สำเนาบัตรประชาชน (ของบุคคลที่สามารถรับรองค่าใช้จ่าย)
- สำเนาหนังสือสำคัญการเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล (ของบุคคลที่สามารถรับรองค่าใช้จ่าย)
- สำเนาทะเบียนสมรส (ของบุคคลที่สามารถรับรองค่าใช้จ่าย)
- สำเนาใบหย่า (ของบุคคลที่สามารถรับรองค่าใช้จ่าย)
- สำเนาใบมรณะบัตร กรณีที่คู่สมรสเสียชีวิต (ของบุคคลที่สามารถรับรองค่าใช้จ่าย)
- หลักฐานการทำงาน ตามข้อ 4.1 – 4.3 (ของบุคคลที่สามารถรับรองค่าใช้จ่าย)
- หลักฐานการเงิน (ของบุคคลที่สามารถรับรองค่าใช้จ่าย) ขอรายการเดินบัญชีออมทรัพย์
(Bank Statement) ตามข้อ 5.1 และ ขอหนังสือรับรองสถานะทางการเงิน (Bank guarantee หรือ Bank certificate) ตามข้อ 6.2.1 และ ข้อ 6.2.2
ติดต่อจองทัวร์หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
|