เยอรมัน ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ 8 วัน

 

เส้นทางนี้ครบรส ขึ้นรถไฟ + กระเช้า + เข้าปราสาท

  • นั่งกระเช้าชมวิว + เดินเล่นชมหมู่บ้าน รูเดสฮาล์ม อัม ไรน์ หมู่บ้านมรดกโลกริมแม่น้ำไรน์
  • ชม ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น ปราสาทในยุคกลางที่สวยเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศเยอรมนี
  • ช้อปปิ้ง Outlet city Metzingen CHIC เอาท์เลตแห่งใหม่พบแบรนด์เนมมากมาย
  • UNSEEN!! หมู่บ้านฝรั่งเศสขนานแท้แคว้นอัลซาส สวยติดอันดับโลก ริคเวียร์ , เออกีเชม และ กอลมาร์
  • UNSEEN!! นั่งกระเช้า Stechelberg สู่ หมู่บ้านเมอเรน MURREN หมู่บ้านติดหน้าผาที่สวยที่สุดในโลก

วันที่ 26 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2561

(Day 1) 26 พฤษภาคม 61

สนามบินสุวรรณภูมิ – กรุงเทพฯ – แฟรงค์เฟิร์ต

 21.00 .   คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 2 เคาน์เตอร์ สายการบินไทย เคาน์เตอร์ D สังเกตุป้ายบริษัท พบกับเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยดูแลเช็คสัมภาระและบัตรที่นั่งบนเครื่อง

23.45.   ออกเดินทางสู่ แฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี โดยเที่ยวบินที่ TG 920

(Day 2) 27 พฤษภาคม 61

สนามบินแฟรงค์เฟิร์ต – รูเดสฮาล์ม อัม ไรน์ – ไฮเดลเบิร์ก –ปราสาทไฮเดลเบิร์ก – ย่านเมืองเก่า – สตุทท์การ์ท

 06.00.   เดินทางถึง แฟรงต์เฟริ์ต ประเทศเยอรมัน หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ รูเดสฮาล์ม อัม ไรน์ Ruedesheim am Rhein (ระยะทาง 64 กม./ 1 ชม.) หมู่บ้านแสนสวยติดแม่น้ำไรน์ที่มีบรรยากาศของเมืองเก่าโรแมนติกมาก เป็นหมู่บ้านแห่งการผลิตไวน์ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกจาก UNESCO

นำท่าน นั่งกระเช้าลอยฟ้า Seilbahngesellschaft โดยกระเช้าจะค่อยๆลอยผ่านไร่องุ่นที่ปลูกกันตามเชิงเขา เห็นแม่น้ำไรน์ที่ไหลผ่านหมู่บ้านเบื้องล่าง จนกระทั่งสู่บริเวณ จุดชมวิว VIEW POINT อันเป็นที่ตั้งของ อนุสาวรีย์ Niederwalddenkmal อนุสาวรีย์แห่งการรวมชาติเยอรมันที่ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของเนินเขา อิสระท่านชมทิวทัศน์อันมี หมู่บ้าน, แม่น้ำไรน์และไร่ไวน์เป็นฉากอยู่เบื้องล่างสวยงาม

สมควรแก่เวลานำท่านนั่งกระเช้าลงสู่เบื้องล่าง แล้วนำท่านเดินชมย่านแห่งการสังค์สรรค์ ณ ถนน Drosselgasse เป็นตรอกเล็กๆตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่า สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 ในตรอกแห่งนี้จะเป็นที่ตั้งของร้านอาหารและร้านไวน์ ซึ่งจะมีการดื่มและปาร์ตี้กันตลอดทั้งวันทั้งคืนในช่วงหน้าร้อน บรรดาร้านอาหารจะนำโต๊ะและเก้าอี้มาตั้งรองรับลูกค้าด้านนอกในช่วงวันบรรยากาศดีๆ ก่อนนำท่านสู่ ย่านร้านค้าในบริเวณเมืองเก่า อิสระให้ท่านเดินชมร้านรวงต่างๆ อาทิ ร้านขายไวน์, ร้านขายขนมและร้านขายของที่ระลึกน่ารักตามอัธยาศัย

หมายเหตุ        กระเช้าอาจมีการปิดให้บริการในวันที่สภาพอากาศไม่ดีหรือมีเหตุจำเป็นต่างๆ หากไม่สามารถขึ้นได้ ทางเราจะคืนเป็นเงินให้ท่านละ 7 ยูโร

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ไฮเดลเบิร์ก HEIDELBERG (ระยะทาง 125 ก.ม./ 2 ชม.) เป็นเมืองที่แสดงความ เป็นตัวตนของความเป็นเยอรมันโรแมนติกได้ดีที่สุด ตั้งอยู่บนชายป่าโอเดนวาลด์ (ODENWALD MOUNTAIN CHAIN) ที่ซึ่งแม่น้ำเนคการ์ (NECKAR RIVER) ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำไรน์ (RHINE RIVER) และตัวเมืองตั้งเด่นเป็นตระหง่านอยู่บนเนินริมฝั่งแม่น้ำ ไฮเดลเบิร์กเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ของศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบโกธิคสมัยกลางและเคยถูกกองทัพฝรั่งเศสบุกเข้าทำลายเมื่อปีค.ศ 1689 และในปีค.ศ 1693 นอกจากนั้นยังเป็นเมืองทางประวัติศาสตร์ของไทยเมืองหนึ่ง เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ทรงประสูติ ณ เมืองนี้ และอัลเบิร์ต ไอสไตน์ เคยมาเดินบนเส้นทางนักปราชญ์ของเมืองนี้แล้ว

กลางวัน       รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านชม ปราสาทไฮเดลเบิร์ก HEIDELBERG CASTLE  ซึ่งในอดีตเป็นป้อมปราการ และต่อมาได้ถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นปราสาทเมื่อปีค.ศ 1544 แม้ปราสาทแห่งนี้จะเคยถูกเผาและทำลายไปบ้างในสมัยสงคราม แต่ก็ยังคงสภาพความสวยงามอยู่เหนือแม่น้ำเนคการ์ได้จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ อิสระให้ท่านชมความสวยงามของปราสาท พร้อมชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำและเมืองไฮเดลเบิร์ก ซึ่งถือเป็นสถานที่ชมวิวที่สวยที่สุดที่ท่านไม่ควรพลาด ก่อนนำท่านขึ้น รถราง Funicular Heidelberger Bergbahn ลงจากปราสาทสู่สถานี Kornmarkt เพื่อนำท่านเดินสู่ ย่านเมืองเก่า  นำท่านแวะบันทึกภาพกับ โบสถ์พระจิตอันบริสุทธิ์ Churh of Holy Spirit ที่ตั้งอยู่ใจกลางตลาดเมืองเก่า รายล้อมไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร บาร์ และแหล่งช้อปปิ้งเรียงราย นำท่านบันทึกภาพกับอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ สะพานเก่า Old Bridge หรือ สะพานคาร์ล ธีโอดอร์ อีก  หนึ่งจุดชมวิวที่สามารถถ่ายภาพสวยของเมืองเก่าโดยมีปราสาทไฮเดลเบิร์กตั้งอยู่บนเนินเขา ก่อนมีเวลาให้ท่านได้เดินเล่น ณ ถนนช้อปปิ้ง Hauptstrasse ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง สตุทท์การ์ท Stuttgart  (ระยะทาง 120 ก.ม./  1.45 ชม.) เมืองใหญ่เป็นอันดับหก ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี เป็นเมืองหลวงของรัฐบาเดิน–เวิอร์ทเทมแบร์ก อีกทั้งยังเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่วนมาก  เป็นอุตสาห  กรรมสมัยใหม่ ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง  พอร์เช่ ฮิวเล็ต-แพคการ์ด และไอบีเอ็ม และไม่เพียงแต่ชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเท่านั้น เมืองสตุทการ์ทยังมีชื่อเสียงในเรื่องของเมืองที่มีธรรมชาติอันงดงาม

ค่ำ                รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร   

พักที่              PULLMAN STUTTGART FONTANA – Stuttgart

ข้อมูลที่พัก       อยู่ในเขต Vaihingen ทางใต้ของตัวเมืองสตุ๊ทการ์ท

(Day 3) 28 พฤษภาคม 61

ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น – ช้อปปิ้ง Outlet city Metzingen – มัลเฮาส์ (ฝรั่งเศส)

เช้า                รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น HOHENZOLLERN CASTLE (ระยะทาง 67 กม./ 1 ชม.) ปราสาทในยุคกลางที่สวยเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศเยอรมนี GERMANY บางคนถึงกับบอกว่าสวยเป็นอันดับหนึ่งเพราะตั้งอยู่บนยอดเขา มีท้องฟ้าเป็นฉากหลังจึงมองเห็นได้เด่นชัดกว่าปราสาทอื่น ๆ ปราสาทสไตล์นีโอโกธิกหลังนี้เป็น สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของ รัฐบาเดน – วูร์ตเทมเบิร์ก BADAN – WURTTEMBERG รัฐที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ โดยปราสาทแห่งนี้เป็นที่พำนักอันแสนโออ่าของราชวงศ์ปรัสเซีย ทว่าถูกทำลายในปี ค.ศ.1423 และสร้างขึ้นใหม่ถึงสองครั้ง โดยรูปแบบปัจจุบันเป็นผลงานจากสมัยศตวรรษที่ 19 ตอนปลาย ปัจจุบันปราสาทแห่งนี้มีผู้คนไปเยี่ยมชมมากกว่า 300,000 คนต่อปี นั้นจึงทำให้เป็นหนึ่งในปราสาทที่มีผู้ชมมากที่สุดในประเทศเยอรมันอีกด้วย นำท่านชมด้านในปราสาท ซึ่งตกแต่งอย่างสวยงาม อาทิ โบสถ์ส่วนพระองค์, ห้องท้องพระโรงใหญ่อันใช้เป็นสถานที่จัดเลี้ยง, ห้องเก็บมงกุฏประจำราชวงศ์, ห้องทรงงานส่วนพระองค์, ห้องนั่งเล่น เป็นต้น ก่อนนำท่านชมวิวอันงดงามบริเวณลานกว้างของปราสาท สมควรแก่เวลานำท่านลงจากยอดเขาของปราสาทโดยรถ Shuttle Bus ที่ทางปราสาทจัดสรรค์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปเยี่ยมชม จากนั้นนำท่านสู่ เอาท์เลตเมตซิงเกน Outlet city Metzingen (ระยะทาง 46 ก.ม./ 40 นาที)

กลางวัน          ขออนุญาตแจกเป็น Pocket Money ท่านละ 20 ยูโร สำหรับมื้อกลางวัน เพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้ง

อิสระช้อปปิ้ง ณ แหล่งช้อปปิ้งสุดชิคแห่งใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมของคนเมืองสตุทการ์ทและเมืองรอบๆ ภายในสร้างเป็นอาคารรูปทรงทันสมัย รายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นอกจากนั้นยังรวบรวมแบรนด์แฟชั่นต่างๆทั้งแบรนด์เนมและสตรีทแบรนด์วัยรุ่น อาทิ ARMANI, BALLY, BURBERRY, BOTEGA VENETTA, GUCCI, PRADA, Super Dry, Adidas, Nike, Diesel, Coach, Jimmy choo, TODs ฯลฯ

15.00 .     จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง มัลเฮาส์ Mulhouse (ระยะทาง 260 ก.ม./ 3.30 ชม.) เมืองใหญ่ทางใต้แห่งแคว้นอัสซาส ตั้งอยู่ติดรอยต่อของ 3 ประเทศคือ ฝรั่งเศส, เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างเดินทางท่านจะได้ผ่านชมวิวทิวทัศน์รวมถึงไร่องุ่นซึ่งเป็นอีก 1 สัญลักษณ์ของแคว้นอัสซาส ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องปลูกไวน์

ค่ำ                รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร   

พักที่             Golden Tulip Mulhouse Basel 

** พัก 2 คืน ไม่ต้องเหนื่อยย้ายโรงแรมบ่อย **

ข้อมูลที่พัก อยู่ในเขต Sausheim ชานเมืองมัลเฮาส์ ไม่ไกลจากโรงแรมมีซุปเปอร์ฯ Naturalia (ปิด 19.00 น.)

(Day 4) 29 พฤษภาคม 61

หมู่บ้านอองกีเชม – หมู่บ้านเกเชอร์สแบรก์ – หมู่บ้านริคเวีย – กอลมาร์ – มัลเฮาส์

เช้า                รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

วันนี้เป็นวันท่องเที่ยวบรรดาหมู่บ้านฝรั่งเศส ที่ได้รับการขนานนามว่า Les Plus Beaux Villange de France หรือ หมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส ต้นแบบหมู่บ้านฝรั่งเศสที่หลายๆที่นำไปก่อสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยว วันนี้จะเที่ยวสบายๆ วิ่งรถไม่ไกล มีเวลาให้ท่านได้เดินอิ่มเอมกับความน่ารักของแต่ละหมู่บ้าน

นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านอองกีเชม EGUISHEIM (ระยะทาง 95 ก.ม./ 1.30 ชม.) หมู่บ้านที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น อีกหนึ่งหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส รวมทั้งเป็นหนึ่งในเส้นทางการชิมไวน์ทางตะวันออกของประเทศ อีกทั้งยังเป็นหมู่บ้านที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของแคว้นอัลซาสอีกด้วย นำท่านเดินชม ความงดงามไปตามถนนอันคดเคี้ยวของหมู่บ้าน ตื่นตาไปกับความงดงามของเหล่าอาคารบ้านเรือนที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นยุคกลางไว้เป็นอย่างดี ชมความเก่าแก่ของอาคารไม้โบราณที่แต่งแต้มด้วยสีสันสีสดใส และเดินลัดเลาะไปชมหมู่ดอกไม้หลากสีสันที่ออกดอกชูช่อตามระเบียงบ้าน เสมือนกับภาพวาดสีน้ำมันที่สดใสประดับประดาเมืองโรแมนติกแห่งนี้ได้อย่างดีเยี่ยม นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเกเชอร์สแบรก์ Kaysersberg (ระยะทาง 14 ก.ม./  30 นาที) ดินแดนบนเชิงเขาโดยเอกลักษณ์ของเมืองสวยแห่งนี้ คือ บ้านเรือนเป็นแบบอนุรักษ์สไตล์“ทิมเบอร์ เฟรมเฮ้าส์” ซึ่งเป็นสไตล์ที่ใช้ไม้เป็นวัสดุสำคัญอีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงแห่งแรกๆในแควน้อัสซาสอีกดว้ย นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีศิลปะสถาปัตยกรรมออันหลากหลายยุคผสมผสานกันอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ ให้ท่านได้เยี่ยมชมและถ่ายภาพความสวยงามตามอัธยาศัย พลาดไม่ได้กับบ้านเรือนอันเป็นเอกลักษณ์มาก จากนั้นได้เวลานำท่านสู่เมือง ริคเวีย Riquewihr (17 ก.ม./ 25 นาที) เมืองที่ติดกับเมืองกอลมาร์ เป็นแหล่งปลูกไวน์ชั้นเลิศของแคว้นอาลซาส และเป็นหนึ่งใน Les Plus Beaux Villange de France หรือหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก Unesco อีกด้วย

กลางวัน        รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

นำท่านเดินชมหมู่บ้านริคเวียร์ บ้านเรือนที่อยู่ในหุบเขา ล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่นที่ไว้สำหรับทำไวน์ โดยเฉพาะช่วงเดือน  เม.ย – พ.ย. จะเห็นต้นองุ่นที่ถูกปลูกสวยงามยิ่งนัก ท่านสามารถ ลิ้มลองชิมไวน์รสเลิศของแคว้นอัสซาส และซื้อเป็นของฝากคนทางบ้านตามอัธยาศัย นำท่านเดินทางสู่เมือง กอลมาร์ Colmar (15 ก.ม./ 15 นาที) เมืองเล็กๆอันเป็นเมืองบ้านเกิดของจิตรกร และช่างแกะพิมพ์มาร์ติน โชนเกาเออร์ และประติมากรเฟรเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดี ผู้ออกแบบอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ เป็นเมืองที่มีความโรแมนติก เมืองหนึ่งของฝรั่งเศส และเป็นสถานที่ที่คู่รักมักจะให้คำสัญญาในความรักระหว่างกันและกันด้วยบรรยากาศที่สวยงามสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนเก่าแก่จึงทำให้เมืองกอลมาร์เป็นอีกหนึ่งในสถานที่โรแมนติกในฝันของใครอีกหลายคน นำท่าน ชมเมืองกอลมาร์ ดินแดนแห่งความงาม ที่มีตึกราบ้านช่องสวยงามมีจุดเด่นอยู่ที่ความงามของดอกไม้ ที่มีอยู่ทั่วเมือง จัดเป็นอีกเมืองที่ถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีความโรแมนติกจนได้รับการขนานนามว่า ลิตเติ้ลเวนิซ ปัจจุบันเมืองเก่าแก่แห่งนี้ได้กลายเป็นเมืองที่น่ามาเยือนเป็นอันดับต้นๆของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมและบรรยากาศของเมืองโบราณ มีบ้านเรือนที่สวยงาม และได้รับการดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี บ้านเรือนแบบนี้ เรียกว่า Colombage (ฝรั่งเศส) หรือ Fachwerkhaus (เยอรมัน) อิสระท่านเดินพักผ่อน เก็บภาพความสวยงามของเมือง หรือจะเลือกชิลนั่งจิบกาแฟรับแสงแดดสูดอากาศอันสดชื่น ให้สมกับที่ท่านได้มาเยือนเมืองอันโรแมนติกแห่งนี้ จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองมัลเฮาส์

ค่ำ                 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักที่              Golden Tulip Mulhouse Basel

ข้อมูลที่พัก อยู่ในเขต Sausheim ชานเมืองมัลเฮาส์ ไม่ไกลจากโรงแรมมีซุปเปอร์ฯ Naturalia (ปิด 19.00 น.)

(Day 5) 30 พฤษภาคม 61

เบิร์น (สวิตเซอร์แลนด์) – สถานีกระเช้า Stechelberg – หมู่บ้านเมอเรน (หมู่บ้านติดหน้าผาที่สวยที่สุด) – กรินเดลวาลด์

เช้า                รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่ได้รับการยอมรับว่า เป็น 1 ในเรื่องภูมิประเทศที่งดงามที่สุด รถโค้ชจะนำท่านเดินทางผ่านเมืองชนบทน้อยใหญ่เข้าสู่บริเวณพรมแดนของสวิส และจะจอดให้ท่านได้กระทำการ ประทับตราศุลกากร Custom Stamp สำหรับท่านที่มีซื้อสินค้าก่อนหน้านี้และได้ซองภาษี Tax refund จากทางร้านค้ามา (สำหรับสินค้าที่จะซื้อในประเทศสวิส สามารถกระทำที่สนามบินวันสุดท้ายได้) นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น Berne (ระยะทาง 234 กม. / 3.30 ชม.) นครหลวงอันเก่าแก่ของสวิตเซอร์แลนด์ เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงสวยงามเป็นอย่างยิ่งจนได้รับการอนุรักษ์ และประกาศให้เป็น “มรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้” ตั้งอยู่เนินเขา ซึ่งที่จุดนี้สามารถชมทิวทัศน์ของตัวเมืองเก่าได้ในมุมกว้าง

กลางวัน         รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้นเที่ยวชม เบเร็นกราเบ็นหรือบ่อหมี สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง เดินทางเข้าสู่ย่าน มาร์คกาสเซ ย่านเมืองเก่า ซึ่งปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และร้านบูทีค นำชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี เข้าสู่ถนนครัมกาสเซ เต็มไปด้วยร้านภาพวาด และร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ นำคณะชม นาฬิกาไซ้ท์ กล็อคเค่น อายุกว่า 800 ปี ที่มีโชว์ให้ดูทุกๆชั่วโมงที่นาฬิกาตีบอกเวลา และกรุงเบิร์นยังเป็นเมืองที่มีน้ำพุ  มากที่สุดเมืองหนึ่งในยุโรป

นำท่านสู่ สถานีกระเช้า Stechelberg (Schilthornbahn) (ระยะทาง 70 ก.ม./ 1 ชม.) เพื่อนำท่าน นั่ง เคเบิ้ลคาร์ ขึ้นไปยัง หมู่บ้านเมอเรน MURREN หมู่บ้านชาเลต์สวิสที่ตั้งอยู่บนแนวเทือกเขาเอลป์ ถือเป็นหมู่บ้านที่คนสวิสฯต่างบอกว่าที่นี้สวยยังกับส  รวงสวรรค์ หากอากาศดีท้องฟ้าแจ่มใสไม่มีหมอกบดบังท่านสามารถชม 3 ยอดขุนเขาที่ตั้งตระหง่านเหนือหมู่บ้านเมอเรน คือ ยอดเขา Eiger, Monch, Jungfrau หากมาในช่วง ดอกไม้ผลิ เม.ย. – ส.ค. ท่านจะพบกับดอกไม้ป่า และดอกไม้ที่ถูกปลูกประดับไว้ตามบ้านเรือนสวยงามยิ่งยิ่งนัก และหมู่บ้านเมอเรน ถือเป็นหมู่บ้านปลอดรถยนต์อากาศจึงยังบริสุทธิ์มาก อิสระท่านเก็บภาพและเดินเล่นในหมู่บ้านแสนน่ารักแห่งนี้ สมควรแก่เวลานำท่านกลับสู่สถานีเบื้องล่าง

** หมู่บ้าน Murren ถือเป็นอีก 2 หมู่บ้านที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มาเยือนสวิสฯไม่พลาดที่จะมา โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวแบบ Backpacker เพราะที่นี้ขึ้นชื่อเรืองความสวยงามของบรรยากาศมาก **

หมายเหตุ    ความสวยงามวิวทิวทัศน์ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส รับประกันว่าสวยมาก

ก่อนเดินทางต่อเข้าสู่เมือง กรินเดลวาลด์ Grindelwald (ระยะทาง 15 ก.ม./ 20 นาที) เมืองเล็กๆที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนเชิงเขาที่ระดับความสูง 1,034 เมตร ท่านจะได้อิ่มเอมไปกับบรรยากาศธรรมชาติแบบสวิสแท้ๆ ที่ท่านจะต้องประทับใจ ที่สำคัญหมู่บ้านนี้เป็น 1 ในต้นทางของสถานีขึ้นพิชิตยอดเขาจุงเฟรา เป็น 1 ในยอดเขาลำดับต้นๆที่ใครที่มาเยือนสวิสแล้วจะพลาดไม่ได้

ค่ำ               รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

พักที่            Sunstar Hotel Grindelwald

ข้อมูลที่พัก โรงแรมตั้งอยู่กลางหมู่บ้านกินเดลวาลด์ที่รายล้อมไปด้วยขุนเขาธรรมชาติของสวิส รอบๆมีร้านค้า ร้านอาหาร และซุปเปอร์ฯ VOI Migros (ปิด 19.00 น.)

(Day 6) 31 พฤษภาคม 61

สถานีรถไฟกรินเดลวาลด์ – นั่งรถไฟฟันเฟือง – ยอดเขาจุงเฟรา Top of Europe – ลูเซิร์น

เช้า                รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟฟันเฟือง จุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวยอดเขาจุงเฟรา ในปี 2001 UNESCO ประกาศให้ยอดเขาจุงเฟรา เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของยุโรป นำท่าน สัมผัสกับประสบการณ์นั่งรถไฟฟันเฟือง ผ่านชมแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติของ JUNGFRAUBAHN ขึ้นพิชิตยอดเขาจุงเฟราที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 11,333 ฟุต ซึ่งได้ รับการยกย่องว่าเป็น TOP OF EUROPE ระหว่างเส้นทางนำท่านสู่ยอดเขา แวะชมกลาเซียร์ หรือ ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ จนถึงสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป บนสถานีปลายทางจุงฟราวบาห์น นำคณะ เพลิดเพลินและสนุกสนานไปกับการเล่นหิมะในลานกว้าง จุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรป มองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร ชมถ้ำน้ำแข็ง ที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Aletsch ที่ ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ยาวถึง 22 ก.ม. และหนา 700 เมตรโดยไม่เคย ละลาย อิสระให้ท่านได้สนุกสนานและเพลิดเพลินกับกิจกรรมบนยอดเขาจุงเฟรา และ ไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ด โดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป

หมายเหตุ !!!   การพิชิตยอดเขาจุงเฟรา เวลาอยู่ข้างบนยอดเขา ท่านอาจจะเหนื่อยและเพลียมากกว่าปกติ ด้วยสภาพอากาศที่น้อย พยายามอย่าออกแรงเยอะ ***

กลางวัน         รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

 จากนั้นพาท่านลงจากยอดเขาจุงเฟรา แล้วนำท่านนั่งรถโค้ชเข้าสู่ เมืองลูเซิร์น Luzern (ระยะทาง 68 กม./ 1 ชม.)  ซึ่งเป็นอดีตหัวเมืองโบราณของสวิสเซอร์แลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า หลังคาแห่งทวีปยุโรป” (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมี ภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม สำหรับเลี้ยงสัตว์ และเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่านักท่องเที่ยวบันทึกภาพไว้มากที่สุด

พาท่านชม สิงโตหินแกะสลัก Dying Lion of Lucerne บนผาหินธรรมชาติ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติในฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1792 ผ่านชม สะพานไม้ชาเปล Chapel Bridge ซึ่งมีความยาวถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ำรอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิสตลอดแนวสะพาน จากนั้นให้ท่านได้ อิสระเลือกซื้อสินค้าของสวิส เช่น ช็อคโกแลต, เครื่องหนัง, มีดพับ, นาฬิกายี่ห้อดัง อาทิเช่น Rolex, Omega, Tag Heuer เป็นต้น

ค่ำ                รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร 

พักที่             Astoria Lucerne

ข้อมูลที่พัก โรงแรมใจกลางเมืองลูเซิร์น ทำเลดีมาก สามารถเดินเล่นชมเมืองยามค่ำคืนได้อย่างสะดวกสบาย   

(Day 7) 01 มิถุนายน 61

สนามบินซูริค – กรุงเทพ

เช้า                รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

08.00 .     เดินทางสู่สนามบิน ซูริค (ระยะทาง 48 ก.ม. / 1 ชม.) พร้อมเผื่อเวลาให้ท่านกระทำภาษี TAX REFUND

13.30.      ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 971

(Day 8) 02 มิถุนายน 61

สนามบินสุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ)

05.30.    เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารชั้น 2 โดยสวัสดิภาพและมีความสุข…

อัตราค่าบริการ

Romantik Villages เยอรมัน ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ 8 วัน

วันเดินทาง

ราคาผู้ใหญ่

ห้องพักคู่

2 ท่าน

ราคาเด็ก*

พักห้อง

1 เด็ก+1 ผู้ใหญ่

ราคาเด็ก*

1 เด็ก+ 2 ผู้ใหญ่

(เสริมเตียง)

ราคาเด็ก**

1 เด็ก + 2 ผู้ใหญ่ (ไม่เสริมเตียง)

พักเดี่ยวเพิ่ม
26 พ.ค. – 01 มิ.ย. 61 89,900 89,900 87,900 86,900 11,900

หมายเหตุ  :  ราคาเด็กต้องมีอายุ 2-12 ปี บริบูรณ์  //  เด็กอายุ 5-12 ปี โรงแรมในยุโรปจะบังคับเสริมเตียง

 

อัตรานี้รวม

  • ตั๋วเครื่องบินไป – กลับ (ชั้น ECONOMY) ตามเส้นทางและสายการบินที่รายการระบุไว้
  • ภาษีสนามบินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและปลายทางต่างประเทศ
  • ค่าที่พัก พร้อมอาหารเช้า (ห้องละ 2 ท่าน) ในระดับดาวมาตรฐานตามโรงแรมที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า หากวันเข้าพักตรงกับช่วงเทศกาลหรืองานจัดแสดงสินค้า อาจมีการปรับเปลี่ยนหรือย้ายเมือง แต่จะคำนึงถึงเส้นทางและความสำคัญของลูกค้าเป็นหลัก
  • ค่าอาหารทุกมื้อตามที่ระบุในรายการ
  • ค่ารถโค้ชปรับอากาศ ขนาด 49 ที่นั่ง นำเที่ยวตามสถานที่ระบุในรายการ
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท ซึ่งเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี และผู้ใหญ่อายุเกิน 75 ปีได้รับความคุ้มครองเพียง 50% ของวงเงินประกัน
  • หัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์ อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าเชงเก้น ระยะเวลาตามวันที่ระบุในรายการ
  • ค่าธรรมเนียมทิป  ไกค์ท้องถิ่นและคนขับรถต่างประเทศ

อัตรานี้ไม่รวม 

  • ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 % และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % กรณีออกใบกำกับภาษี
  • ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ / ค่าซักรีด / ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋า ขอเรียนให้ท่านทราบว่า กรณีไม่มีบริการยกกระเป๋า ท่านผู้เดินทางทุกท่านจะต้องดูแลทรัพย์สินของท่านด้วยตนเอง
  • ค่าธรรมเนียมทิป หัวหน้าทัวร์ (ตามอัธยาศัย) ปกติท่านละ 20 – 25 ยูโร
  • ค่าปรับน้ำหนักกระเป๋าที่เกินกว่าที่ทางสายการบินกำหนด

 เงือนไขการจองทัวร์

  • กรุณาชำระมัดจำท่านละ 30,000 บาท ภายใน 2 วัน จากวันจอง โดยโอนเข้าบัญชี ที่นั่งจะยืนยันเมื่อได้รับเงินมัดจำแล้วเท่านั้น
  • สำหรับช่วงเทศกาลวันหยุด ปีใหม่ – สงกรานต์ เก็บมัดจำท่านละ 40,000 บาท
  • ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน
  • เมื่อได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ว่าให้จัดเตรียมเอกสารขอวีซ่าได้ ท่านสามารถจัดเตรียมเอกสารขอวีซ่าได้ทันที
  • หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อเจ้าหน้าที่ ก่อนออกบัตรโดยสารทุกครั้ง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
  • การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ทั้งแบบหมู่คณะ และยื่นรายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่
  • หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด

เงื่อนไขการชำระเงินส่วนที่เหลือ

  • ส่วนที่เหลือชำระก่อนเดินทาง 20 วัน หรือเมื่อทางสายการบินมีการเรียกออกตั๋ว โดยทางบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าก่อนจะมีการเรียกเก็บเงิน
  • หากท่านไม่ผ่านการอนุมัติวีซ่า ทางบริษัทฯ ขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ช่น ค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า / ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน / ค่าตั๋วเครื่องบิน (กรณีออกตั๋วเครื่องบินแล้ว) ทางบริษัทฯ จะทำการ Refund กับทางสายการบิน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3- 6 เดือนเป็นอย่างน้อย และขึ้นอยู่กับ Condition ของทางสายการบิน / ค่าส่วนต่างในกรณีที่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ครบตามจำนวน

เงื่อนไขการยกเลิกและการปรับเงินค่าบริการ

  • ยกเลิกหลังการจอง ปรับเงินทันที 1,000 บาท (คิดเป็นค่าบริการของพนักงาน)
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30-45 วัน หักค่ามัดจำ 50% ของเงินมัดจำ + ค่าวีซ่า
  • ยกเลิกก่อนการเดินทาง 15-30 วัน หักค่าใช้จ่าย 100% ของเงินมัดจำ
  • ยกเลิกการเดินทาง 1-15 วัน หักค่าใช้จ่าย 100% ของราคาทัวร์
  • หากมีการออกตั๋วเครื่องบิน หรือจองโรงแรมไปแล้ว ทางบริษัทฯ จะคิดค่าบริการตามจริง
  • กรณีเจ็บป่วย จนไม่สามารถเดินทางได้ ท่านต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง บริษัทฯ จะส่งเรื่องขอ Refund เฉพาะค่าตั๋วเครื่องบินกับทางสายการบิน โดยดุลยพินิจขึ้นอยู่กับทางสายการบินเท่านั้น หรือ หากท่านต้องการเลื่อนการเดินทางของท่านไปยังคณะต่อไป ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ที่ไม่สามารถเรียกคืนได้ จากคณะทัวร์เดิมที่ท่านไม่ได้เดินทาง คือ ค่าธรรมเนียมในการมัดจำตั๋ว และค่าธรรมเนียมวีซ่าตามที่สถานทูตฯ เรียกเก็บ
  • กรณียื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่าจากทางสถานทูต (วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าทัวร์ หรือมัดจำมาแล้ว ทางบริษัทฯ ขอเก็บเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น ค่าวีซ่าและค่าบริการยื่นวีซ่า / ค่ามัดจำตั๋วเครื่องบิน / ค่าตั๋วเครื่องบิน (กรณีออกตั๋วเครื่องบินแล้ว) ทางบริษัทฯ จะทำการ Refund กับทางสายการบิน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3- 6 เดือนเป็นอย่างน้อย และขึ้นอยู่กับ Condition ของทางสายการบิน / ค่าส่วนต่างในกรณีที่กรุ๊ปออกเดินทางไม่ครบตามจำนวน

กรณีวีซ่าผ่านแล้ว แจ้งยกเลิกก่อน หรือหลังออกตั๋วโดยสาร บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด

ติดต่อจองทัวร์หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

www.beaconboytravel.com / Facebook: Beaconboy Travel / Line@:@beaconboytravel

อีเมล์: info@beaconboytravel.com เบอร์โทรศัพท์: 02-048-4757 / 091-7784757