กรุงวิลนิอุส เมืองหลวงของประเทศลิทัวเนีย หนึ่งในสมาชิกประเทศรัฐบอลติก (เอสโทเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย ) ทางภูมิศาสตร์ทั้งสามประเทศตั้งอยู่ริมทะเลบอลติก จึงเป็นกลุ่มประเทศยุโรปเหนือ แต่ในบริบททางการเมืองและสังคม ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงช่วงโซเวียตรัสเซียล่มสลาย ถือว่าเป็นกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก ปกครองด้วยระบบคอมมิวนิสต์ภายใต้โซเวียตรัสเซีย วันนี้ Beaconboy Travel จะนำท่านวิ่ง Fun Run ยามเช้า ชมความสวยงามลงตัวของเมืองวิลนิอุส ประเทศลิทัวเนีย

ธงชาติประเทศลิทัวเนียและอาร์มสัญลักษณ์ (Photo : Wikipedia)

“Gate of Dawn ” ประตูแห่งรุ่งอรุณ

Gate of Dawn หรือประตูแห่งรุ่งอรุณนี้ เป็นประตูที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเก่าวิลนิอุส ประตูเป็นแนวเดียวกับกำแพงเมืองโบราณที่ก่อสร้างตั้งแต่สมัย ค.ศ.1503 มีรูปไอคอนของพระแม่มารีประดิษฐานอยู่ เป็นที่เคารพของคริสต์ศาสนิกชนอย่างยิ่ง (77% ของประชากรนับถือนิกายโรมันคาทอลิก) มาเที่ยวลิทัวเนียไม่ต้องกังวลเรื่องแลกเงิน เพราะประเทศลิทัวเนีย รวมถึงลัทเวีย และเอสโทเนีย ใช้เงินสกุลยูโรทั้งหมดครับ

จากประตูแห่งรุ่งอรุณ เดินตามทางถนนมุ่งหน้าขึ้นทิศเหนือ ก็จะเป็นย่านผับบาร์ ร้านอาหารต่าง ๆ ที่ยามแดดร่มลมตก จะพลุกพล่านไปด้วยนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย แต่เรามาวิ่งสูดอากาศยามเช้า ก็มีคนท้องถิ่นวิ่งสวนไปมาพอสมควร วิ่งเร็วมากจนถ่ายรูปไว้ไม่ทัน (ฮาาา)

ร้านอาหารผับบาร์ต่าง ๆ ในกรุงวินิลอุสถ้าหากเป็นศุกร์-เสาร์ จะเปิดทำการถึงตี 5 โดนใจนักท่องเที่ยวที่ชอบท่องราตรีอย่างแน่นอน แต่สำหรับวันธรรมดา ส่วนมากก็ปิดบริการเที่ยงคืนถึงตีสอง

Vilnius Town Hall

จุดถัดมาก็จะถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองวิลนิอุส ศาลากลางหรือ Town Hall นั่นเอง

ที่กำแพงข้างประตูศาลากลาง มีป้ายโลหะสลักคำพูดของ “George W. Bush” ประธานาธิบดีคนที่ 43 ของสหรัฐอเมริกา ที่กล่าวไว้ในครั้งมาเยือนลิทัวเนียในปี ค.ศ.2002 อารมณ์ประมาณว่า “หากใครคิดมาเป็นศัตรูกับลิทัวเนียเพื่อนข้า จะต้องมีปัญหากับอเมริกาแน่” ได้ใจชาวลิทัวเนียไปเต็ม ๆ ในการเยือนครั้งนั้น

ด้านหน้าศาลากลาง สวยงามคลาสสิกสไตล์ยุโรป

“UZUPIS” (UZUPIS Republic)

จุดถัดมาเป็นสถานที่ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง “อูซูพิส รีพลับบลิก” รัฐสมมุติที่มีแม่น้ำ “วิลเนีย” ไหลผ่านระหว่างย่านเมืองเก่าวิลนิอุสและอูซูพิส สถานที่แห่งนี้มีเป็นรัฐสมมุติที่จริงจังมาก มีกองกำลังรักษาตนเองประจำการอยู่ 12 นาย และวันชาติของพวกเขา ตรงกับวันที่ 1 เมษายน หรือวัน “April Fool’s Day พอทราบแล้ว เสียงเพลงของพงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ ก็ลอยเข้ามา จริงจังแค่ไหน แค่ไหนเรียกจริงจัง ฮ่าๆๆ

ช่วงเช้าที่วิ่ง Fun Run เข้ามา ก็กะว่าจะได้พบกับกองกำลังรักษาตนเองสักนาย แต่ที่พบกับเป็นชายหนุ่มที่ปั่นจักรยาน เก็บขวดที่วัยรุ่นท้องถิ่นรวมถึงนักท่องเที่ยวทิ้งไว้จากปาร์ตี้ยามค่ำคืน (ประเทศลิทัวเนีย มีระบบการมัดจำขวด “Pfand” เหมือนประเทศเยอรมนี โดยส่วนมากค่า Pfand อยู่ที่ 0.1 ยูโร)

รูปปั้นนางฟ้าแห่งอูซูพิส อีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญที่ห้ามพลาดแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

ทุกบ้านเมืองย่อมมีกฎหมายมีขื่อมีแป รัฐอูซูพิสก็เช่นกัน แถมยังมีถึง 41 ข้อด้วยกัน ดังนั้นเราจึงไปที่ข้อ 41 เลยดีกว่า “Do not surrender” จงอย่ายอมแพ้ :p

ขออนุญาตเดาว่าเป็นตราสัญลักษณ์ของรัฐแห่งนี้

พอวิ่งวนข้ามแม่น้ำวิลเนียมา ก็จะเจอกับป้ายสุดเขตรัฐอูซูพิส ตามธรรมเนียมนักท่องเที่ยววัยรุ่นอินดี้ ถ้าหากมีสติ๊กเกอร์ของกลุ่มหรือแกงค์ ก็จะมาติดประทับไว้แสดงว่าได้มาเยือนเรียบร้อยแล้ว

หลังจากกลับเข้าสู่เขตเมืองเก่าวิลนิอุส ก็ได้พบกับบอลลูนขนาดยักษ์ ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าเช้าวันสดใส เข้ากับบรรยากาศยิ่งนัก สืบทราบได้ความว่า เมืองวิลนิอุสแห่งนี้ มีบริการให้นักท่องเที่ยวขึ้นบอลลูนเหมือนเช่นเมืองคัปปาโดเกีย ประเทศตุรกี แต่ไม่อลังการณ์งานสร้างเท่า วิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองเก่าวิลนิอุสก็ทำให้กิจกรรมการล่องบอลลูนน่าสนใจ หากแต่มีค่าใช้จ่ายประมาณท่านละ 100 ยูโร หากท่านใดสนใจสามารถจองก่อนล่วงหน้าได้ ณ ที่พักของท่าน (กิจกรรมนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละวัน)

“St. Anne’s Church” โบสถ์เซนท์แอนน์

ประจวบเหมาะที่บอลลูนลอยมาหน้าโบสถ์เซนท์แอนน์ ไม่พลาดเก็บภาพเป็นที่ระลึก

กำแพงย่านเมืองเก่าที่ศิลปินท้องถิ่นนำผลงานมาตกแต่งไว้ตามกำแพง มีความเป็นเอกลักษณ์สร้างความเพลิดเพลินให้ผู้พบเห็นเป็นอย่างดี

สำหรับเมืองวิลนิอุส ประเทศลิทัวเนีย ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าเดินทางไปเยี่ยมเยียนเป็นอย่างมาก ส่วนมากการเดินทางไปท่องเที่ยวก็จะเป็นเส้นทางท่องเที่ยวกลุ่มประเทศทะเลบอลติก ลิทัวเนีย ลัทเวีย เอสโทเนีย หากท่านใดมีโอกาสก็น่าสนใจ ที่สำคัญ ค่าครองชีพอาหารเครื่องดื่มโรงแรมที่พัก โดยเฉลี่ยถูกกว่ากลุ่มประเทศยุโรปที่นักท่องเที่ยวนิยมถึงประมาณ 20-30 % เลยทีเดียว

ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมครับ :p